posttoday

นี่หรือกฎหมาย

29 เมษายน 2559

มาตรฐานใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อทหารผู้รักชาตินำทีมไป “อุ้ม” ประชาชนธรรมดาถึง 10 คน ในหลายพื้นที่ โดยไม่ใช่การอุ้มธรรมดา แต่เป็นการอุ้มก่อน ค่อยแจ้งข้อหาทีหลัง

โดย...คุณบ๊งเบ๊ง [email protected]

มาตรฐานใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เมื่อทหารผู้รักชาตินำทีมไป “อุ้ม” ประชาชนธรรมดาถึง 10 คน ในหลายพื้นที่ โดยไม่ใช่การอุ้มธรรมดา แต่เป็นการอุ้มก่อน ค่อยแจ้งข้อหาทีหลังว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเขียนวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นผลงานประวัติศาสตร์ เพราะเอากำลังเกือบ 20 นาย บุกบ้านประชาชนแต่เช้า เพื่อจับคนวิจารณ์ไปเข้าค่ายทหารโดยไม่เปิดเผยสถานที่

ถามว่าอาศัยอำนาจอะไร เพราะไม่มีหมายจับ ไม่มีแม้แต่หมายค้น คสช.ก็อ้างเอาคำสั่งมาตรา 44 ง่ายๆ ทั้งที่การคุมตัวลักษณะนี้ ม.44 อนุญาตเพียง “ผู้กระทำผิดหมวดความมั่นคง” และ “ผู้มีอิทธิพล” เท่านั้น ไม่ใช่ “ผู้วิจารณ์รัฐบาล

แต่ คสช.ก็ยังเลือกอ้างคำสั่งดังกล่าว เพราะให้อำนาจ “ค้น จับ ขัง” ครอบจักรวาล

แสดงให้เห็นความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายที่เขียนเอง ออกเอง มาสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ในการกำจัด “ผู้เห็นต่าง”

ด้วยเหตุผลเดียวคือ “ท่านผู้นำ” ไม่สบอารมณ์ จึงต้องใช้ยาแรงในการจัดการคนเหล่านี้ และก็เข้าอีหรอบเดิม คืออ้าง “กฎหมาย”

ทั้งที่กระบวนการตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้องมีการแจ้งความ ต้องมีการสืบสวน รวบรวมหลักฐาน และดำเนินคดี ว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่

แต่นี่กลับตีความกันเองว่าอะไรผิดด้วยการใช้ข้อความในกฎหมายที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ตีความให้ครอบคลุม สร้างความหวาดกลัว จนกฎหมายกลายเป็นบทบัญญัติที่ไม่มีมาตรฐาน-เชื่อถือไม่ได้

พอถูกวิจารณ์มากเข้า ประชาชนที่ถูกอุ้มก็เลยโดนอีก 1 คดี นั่นคือกฎหมายอาญา ม.116 นั่นคือ “ยุยงปลุกปั่น” เพื่อให้เข้าหมวดความมั่นคง เพื่อให้เข้าอำนาจ “ศาลทหาร”

เรียกได้ว่าทหารกำลังสร้าง “มาเฟีย” ขึ้นมาเสียเอง เพราะวิธีการกำจัดฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เห็นด้วย ไม่ว่าเขาคนนั้นจะวิจารณ์ถูกต้องหรือไม่ ก็คือ “ผู้มีอิทธิพล” ดีๆ นี่เอง

ขณะเดียวกัน ด้วยวิธีนี้ได้ทำให้รัฐบาลกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนอยู่เหนือการวิจารณ์ไปเรียบร้อย

สอดคล้องกันพอดีกับการไล่จับคนที่แสดงความเห็น “เชิงลบ” กับรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ

เพราะเป็นการอาศัยดุลพินิจส่วนตัวไปจับคนวิจารณ์รัฐธรรมนูญ โดยใช้กฎหมายของตัวเองควบคุมการแสดงออกอีกครั้ง

ด้วยเหตุนี้ อาจารย์มหิดลซึ่งแจกใบปลิวระบุข้อเสียรัฐธรรมนูญ จึงโดน คสช.ขู่เอาผิด ด้วยเหตุนี้ สุภาพสตรีคนหนึ่งที่ขอนแก่นจึงโดน กกต.แจ้งความ โดยตำรวจเข้าจับกุมทันที พร้อมกับนำตัวมาแถลงข่าวในกรุงเทพฯ วันนั้นเลย เพียงเพราะโจมตีรัฐธรรมนูญ

ทั้งที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ พูดเชียร์เอิกเกริก ทั้งที่น้อง รด.ประชาสัมพันธ์ให้รับรัฐธรรมนูญได้ ไม่มีใครห้าม

กฎหมายในยุค คสช.จึงเป็นกฎหมายที่ขึ้นกับ “ความพอใจ” ของผู้มีอำนาจ เพราะเลือกจะหลิ่วตาให้ผู้สนับสนุน ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็สามารถยกองคาพยพไปอุ้มเอาที่บ้าน

คำถามก็คือ เราจะต้องอยู่ในช่วงเวลาที่กฎหมายขึ้นกับ “ความพอใจ” ของผู้มีอำนาจแบบนี้อีกนานเพียงใด?

อีก 1 ปี 5 ปี หรือไม่รู้จบ...

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน