ความล้มเหลวของ "อมนุษย์"
"คุณอาจประสบความสำเร็จในการสังหารผู้บริสุทธิ์ แต่คุณไม่มีวันทำลายจิตใจอันกลมเกลียวของคนไทยไปได้เลย"
โดย...อสนีบาต
ผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์กับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์มีผู้เสียชีวิต 20 ราย และบาดเจ็บจำนวนนับร้อย หากถามหาความคืบหน้าก็ดูเหมือนยังไม่มีความคืบหน้ากับการติดตามหาผู้ก่อเหตุที่มีจิตใจเยี่ยงอมนุษย์ มารับโทษทัณฑ์
แต่อย่างว่า ขบวนการกระทำความเสียหายให้บ้านเมือง มีความสลับซับซ้อนนัก จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงาน อย่าเพิ่งออกอาการใจร้อน เดี๋ยวจะเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ไปเปล่าๆ
ถึงจะยังไม่มีความคืบหน้าจับตัวอมนุษย์ แต่การต่อจิ๊กซอว์ขบวนการสร้างความเสียหายบ้านเมืองเริ่มบีบวงแคบเข้ามาทุกขณะ ตั้งแต่การเชิญพยาน ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก คนขับรถแท็กซี่ ต่างให้ข้อมูลสอดคล้องตรงกัน ถึงผู้ก่อการเป็นชาวต่างประเทศ ทำให้ทราบถึงเล่ห์เพทุบายขบวนการดังกล่าวนั้นไม่ธรรมดา
เช่น การวางแผนกำหนดเส้นทางมาก่อเหตุให้เจ้าหน้าที่เชื่อไปตามเกม จากเดิมเชื่อกันว่าผู้ก่อเหตุเริ่มต้นขึ้นรถตุ๊กตุ๊กจากหัวลำโพงมาก่อเหตุราชประสงค์
แต่เมื่อคนขับแท็กซี่มาให้ข้อมูลล่าสุด จึงทำให้เห็นอีกภาพหนึ่งว่า จุดเริ่มต้นผู้ก่อเหตุ มาจากย่านพระรามสี่โดยเรียกแท็กซี่ไปส่งหัวลำโพง ก่อนที่จะขึ้นรถตุ๊กตุ๊กย้อนกลับมาราชประสงค์ ภายหลังก่อเหตุ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ ไปส่งแถวสวนลุมพินี
ฉะนั้น ต้องมาจับต้นชนปลายทำการวิเคราะห์กันอีกรอบ
.......................
มีการกล่าวกันถึงความพยายามของขบวนการอมนุษย์ที่หวังว่าการกระทำครั้งนี้จะดิสเครดิตรัฐบาลได้ จะสามารถซ้ำเติมภาวะทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวดิ่งเหว ให้คนในชาติเกิดความหวาดกลัวไม่มั่นใจในความปลอดภัย
แต่หารู้ไม่ความมุ่งหวังของขบวนการอมนุษย์ ไม่สำเร็จผล ตรงกันข้ามกลับทำให้เห็นพลังคน ในชาติร่วมกันแสดงออกถึงการเห็นอกเห็นใจ รักสามัคคีกันมากขึ้น
ตัวอย่างที่ถูกพูดกันมาก ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสาร จากสำนักข่าวเยอรมัน หลายท่านได้ติดตามกันบ้างแล้ว ขอมาเล่าซ้ำอีกครั้ง
ในยามวิกฤตประชาชนคนไทยกลับไม่ได้ทิ้งกันวินมอเตอร์ไซค์ขันอาสารับประชาชนบริเวณที่เกิดเหตุโดยไม่คิดค่าโดยสาร แพทย์พยาบาล ที่ถูกขนานนามเป็นฮีโร่ยามรัตติกาล ทั้งที่ออกเวรกันไปแล้วแต่วกกลับมาให้การดูแลรักษา ผู้บาดเจ็บจนบางโรงพยาบาลมีจำนวนมากกว่าคนไข้
ข้อเท็จจริงอีกประการ ในสังคมโซเชียล มีเดียที่มีการสื่อสารมากมายเหลือเกิน เมื่อ มีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
น่าจะเป็น ครั้งแรกที่ชาวโซเชียลมีเดียขอบอกว่ามีจำนวนมากช่วยกันอย่างแข็งขันเผยแพร่ข้อความ งดการนำเสนอภาพผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นการให้เกียรติกับผู้ที่จากไปและจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดี ที่ต้องการโหมกระพือความน่ากลัวไปขยายผล ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะการปลอบขวัญ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ในแง่มุมต่างประเทศ ปรากฎหลายประเทศ ยังให้ความมั่นใจในการให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทย มีประกาศพร้อมให้ความร่วมมือติดตามหาตัวผู้กระทำผิด มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ใบหน้าผู้ก่อเหตุไปทั่วโลก
การเห็นอกเห็นใจผ่านถ้อยแถลงจากรัฐบาลนานาประเทศ ประกาศให้ความร่วมมือ ถึงขั้นจะส่งผู้เชี่ยวชาญ จัดหาเครื่องมือเทคโนโลยีนำสมัยติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ จึงทำให้ความมุ่งหวังของอมนุษย์ที่คิดว่าเมื่อกระทำการไปแล้ว ต่างชาติจะเผ่นหนีไทย หมดความน่าเชื่อถือ ไม่บรรลุวัตถุประสงค์
เพราะความเข้มแข็งของคนไทยนี่เอง
"จริงอยู่ คุณอาจประสบความสำเร็จในการสังหารผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นกมลสันดานของอมนุษย์อยู่แล้ว แต่คุณไม่มีวันทำลายจิตใจอันกลมเกลียวของคนไทยไปได้เลย"