นี่คือคนไทย

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดในเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ แน่นอนมีการตีข่าวออกไปทั่วโลกชี้ให้เห็นเมืองไทยน่าหวาดหวั่นสะพรึงกลัว แต่ละประเทศเตือนนักท่องเที่ยวมายังเมืองไทย 

อีกด้านมีผู้รู้มากมายเหลือเกิน ออกมาวิเคราะห์วิจารณ์ถึงเหตุจูงใจการก่อเหตุไปในหลายทิศทางจนข้อมูลข่าวสารล้นทะลัก ผู้รับข่าวไม่ได้กลั่นกรองก็เผยแพร่ต่อๆ กันไป

แม้แต่กลุ่มการเมืองหนีไม่พ้นที่จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวออกมาผูกโยงเป็นฝีมือนักการเมืองคนโน้น เป็นฝีมือของรัฐบาลชุดนั้น นำไปสู่การสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก

ทั้งที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนยังไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ดูจะไม่ใช่กาลเวลาที่จะนำมาโจมตีกันไปมา จึงอาจเป็นสูตรสำเร็จของกลุ่มการเมืองที่คิดได้เพียงเท่านี้ และไม่อาจหลุดพ้นหุบเหวความขัดแย้งขึ้นมาได้

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่มักจะดึงให้ผู้คนไปสู่ความเข้าใจผิดๆ มีความพยายามของสังคมในโลกโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่งพยายามรณรงค์ให้ใช้วิจารณญาณติดตามข่าวสารอย่างรอบด้าน

ต่างบอกกล่าวให้งดการเผยแพร่ ส่งต่อภาพผู้เสียชีวิต มีการเสนอข้อความ “ขอความร่วมมืออย่าให้ความอยากรู้อยากเห็นอยู่เหนือการให้เกียรติผู้เสียชีวิต และอาจเป็นการช่วยให้ผู้ก่อการร้ายสร้างกระแสรุนแรงให้ประชาชนตื่นตระหนกและหวาดกลัว”

น่าสนใจกว่านั้นยังมีการเผยแพร่เรื่องราวอีกด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้คนอยู่ในเหตุการณ์ช่วยผู้บาดเจ็บ พบวินจักรยานยนต์รับผู้ประสบเหตุโดยไม่คิดค่าโดยสาร แพทย์พยาบาลออกเวรแต่กลับมาปฏิบัติหน้าที่จนบางโรงพยาบาลน่าจะมากกว่าจำนวนผู้บาดเจ็บ

มีล่ามอาสาสมัครจำนวนมากประสงค์เข้ามาช่วยสื่อสารภาษาให้ชาวต่างประเทศที่ประสบเหตุ แม้แต่ภาพของประชาชนคนไทยร่วมกันลงทะเบียนร่วมกันบริจาคโลหิตแน่นโรงพยาบาล

ไม่ว่าจะมีความพยายามบุคคลใดประสงค์ทำร้ายประเทศไทย แต่ก็ได้เห็นแล้วว่าคนไทยก็ยังเข้มแข็งช่วยเหลือซึ่งกันและกันในวิกฤต “นี่แหละคือคนไทย”