อิดหนาระอาใจ

โดย...e-ช้าน [email protected]

นายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ทำเอางานมอบรางวัล SVN AWARD ประจำปี 2557 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คึกคักและมีสีสันมากเป็นพิเศษเกินกว่าที่เจ้าภาพกำหนดไว้

วันนั้นท่านถูกเชิญมาเป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัล ซึ่งเป็นการเชิดชูองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม หรือทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม

แต่กลายเป็นว่า “ไฮไลต์” ในงานไปโฟกัสอยู่ที่ตัวผู้มอบมากกว่าผู้ขึ้นรับรางวัล

ท่านนายกฯ อานันท์ ใช้เวลาส่วนใหญ่พูดถึงสถานการณ์การเมือง และกระตุกเตือนให้ช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เพื่อก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง e-ช้าน...ขอนำเนื้อหาในบางตอนมาเล่าสู่กันฟังอีกรอบ

แค่เริ่มประโยคแรกๆ คุณอานันท์ก็เรียกความสนใจคนทั้งห้องประชุมสยามสมาคมฯ “การเมืองช่วง 5 ปีมานี้ อยู่ในภาวะอันตราย”

พร้อมกับข้อเสนอต่อรัฐบาล คสช.อย่างมีนัยสำคัญ คุณอานันท์ บอกว่า ความแตกแยกในบ้านเมืองเราจนถึงทุกวันนี้ เพราะเราไม่ได้ “ค้นหาสาเหตุที่แท้จริง” ของปัญหา ทำให้คนไทยรู้สึกหดหู่อยู่อย่างมีความหวาดกลัว โดยเฉพาะต่อสถาบันที่เราเคารพ เพราะต่างก็ใช้สถาบันในการประหัตประหารกัน

ท่อนนี้ท่านอดีตนายกฯ สรุปว่ามันเกิดขึ้นเพราะ “ความโลภ ความหลง และความไม่พอเพียง ทำให้เราแตกร้าวทางความคิด เลยเถิดเกินขอบเขตจนยากจะเยียวยา...กระทั่งเกิดเหตุการณ์อย่างที่เราทราบกัน ทั้งที่ในทางทฤษฎีไม่น่าจะเกิดแล้ว แต่มันก็เกิดขึ้นซ้ำ และก็ไม่เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

“เหมือนเอาเหล้าใหม่มาใส่ในขวดเก่า แต่เป็นขวดที่สกปรก น่าระอา สุดท้ายก็กลับไปรูปแบบเดิม ผมไม่อาจกล่าวได้ว่าที่ทำไปผิดหรือถูก แต่มีคนจำนวนไม่น้อยพูดไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัด

“เราเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไปเชื่อฝรั่งบอกให้มีการเลือกตั้ง ที่เป็นอยู่มันไม่ดี อย่าไปเชื่อมาก ที่เขาไม่ชอบเขาทำมาแล้วทั้งนั้น ตอนนี้ไปช่วยรัฐประหารในประเทศอื่น เราไม่ใช่ว่าดีมาก แต่ถ้าไปหมกมุ่นอยู่กับอดีตซึ่งไม่ใช่ต้นตอของปัญหา วันนี้ทุกประเทศพูดถึงความยุติธรรม กระทรวงศึกษาต้องเปลี่ยน เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการปฏิรูป ต้องปรับวิธีคิดของคนไทยซึ่งเป็นอุปสรรค...

e-ช้าน...เห็นบรรยากาศในห้องประชุมคึกคัก มีคนพยักหน้าเห็นด้วย บ้างมีแววตาสับสนต่อข้อเสนอหลายๆ ข้อของคุณอานันท์ ขณะที่นอกห้องระคนไปด้วยความเศร้า ช่าง
ย้อนแย้งกับการเร่งเครื่องของรัฐบาลปัจจุบัน

“รัฐบาลทหารยิ่งอยู่ชาวบ้านยิ่งมีความทุกข์ ไปไหนก็ถูกทหารคอยติดตามตลอด...มีทั้งในเครื่องแบบนอกเครื่องแบบ เราเดือดร้อนจากโครงการ และต้องอยู่แบบเอาตัวกันให้รอด” เสียงจากชาวนามูล-ดูนสาด ที่เดินทางมาเรียกร้องความไม่เป็นธรรมจากโครงการสำรวจปิโตรเลียมของบริษัท อพิโก้ (โคราช) ณ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

นี่กระมังความน่าระอาใจที่ต้องเร่งสร้างความเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว