เจ้าพ่อหลีเป๊ะ

โดย...e-ช้าน [email protected]

แม้ “สตูล” จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่รายล้อมด้วยทรัพยากรทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาล คนไม่รู้จักสตูลและไม่เคยไปเที่ยวสตูลอาจจะเข้าใจว่าจังหวัดเล็กๆ ฝั่งอันดามันแห่งนี้เทียบไม่ได้กับชื่อชั้นของกระบี่ พังงา และภูเก็ต...e-ช้าน...ขอให้คิดใหม่ เพราะไปคุยกับคนที่นั่นแล้วจะรู้ว่ามีผลประโยชน์ล้นหลาม

แต่โชคร้ายการคัดเลือกข้าราชการไปประจำสตูลมักได้เกรดระดับรองๆ  ทั้งที่ทะเลอันดามันบริเวณนี้เต็มไปด้วยเกาะแก่งมากมาย

สตูลมีอุทยานทางทะเล 2 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ซึ่งภายใต้อาณาบริเวณของอุทยานทั้งสองแห่งมีเกาะมากมายถึง 73 เกาะ อาทิ เกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง-ราวี เกาะบุโหลน เกาะไข่ เกาะหินงาม ฯลฯ

ดังนั้น เฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างเดียวแต่ละปีสามารถสร้างรายได้ให้คนสตูลจำนวนมาก โดยเฉพาะการขนนักท่องเที่ยวจากเกาะลังกาวีของมาเลเซีย โดยยอมตั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกันกลางทะเลที่ส่งผลให้ชาวต่างชาติทะลักลงเกาะต่างๆ กันไปจนถึงภูเก็ต โดยย้อนไปเมื่อปี 2556 มีคนมาเที่ยวสตูลทั้งสิ้น 1.13 ล้านคน มีรายได้ถึง 6,329 ล้านบาท

แต่มีคำถามว่านักท่องเที่ยวเหล่านั้นขนเงินมาให้ใครบ้าง ตั้งแต่ลงเรือสปีดโบต เข้าที่พัก และใช้จ่ายอื่นๆ กระทั่งกลับ

นอกจากนี้ ที่นี่เป็นที่รับรู้กันดีว่าการลักลอบค้าของเถื่อนเฟื่องฟูมาก รวมทั้งการค้าโรฮีนจาที่กระฉ่อนไปทั่วโลก กิจกรรมใต้ดินทุกประเภทเชื่อมโยงกันเป็นวงจรโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยอำนวยความสะดวก ซึ่ง “โกโต้ง” หรือ ปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ.สตูล คือเบอร์ 1 ที่บิ๊กข้าราชการในจังหวัดรู้จักดี และให้ความเกรงขาม

ว่ากันว่าใครจะย้ายมาลงสตูลต้องผ่านการรับรองของโกโต้ง ใครจะซื้อขายที่ดินบนเกาะโดยเฉพาะที่หลีเป๊ะต้องผ่านโกโต้ง ใช่ว่าจะหอบเงินไปชี้นิ้วที่ผืนไหนบนเกาะแห่งนี้ได้

ล่าสุดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตรวจสอบออกเอกสารสิทธิบนเกาะหลีเป๊ะและเกาะตะรุเตา พบการบุกรุกถึง 40 แปลง พื้นที่กว่า 400 ไร่ ในจำนวนนี้ได้ยื่นฟ้องโกโต้งทั้งหมด 8 คดี พื้นที่เกือบ 100 ไร่ โดยโกโต้งถือเป็นผู้ครอบครองที่ดินและเป็นเจ้าของรีสอร์ทรายใหญ่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แบ่งที่บนเกาะหลีเป๊ะขายให้นายทุนมาเลเซียไป 10 กว่าไร่ มูลค่าร่วม 200 ล้านบาท

ในอดีตสมเด็จย่าเคยเสด็จฯ เกาะหลีเป๊ะ และได้พระราชทานนามสกุล “หาญทะเล” ให้กับ “ชาวเลอูรักลาโว้ย” เพื่อให้ชาวเลอาศัยเป็นที่เป็นทาง แต่ บรรจง อังโชติพันธุ์ หรือ กำนันจง พ่อของโกโต้งซึ่งเป็นคนบกรายแรกๆ ที่เข้ามาปักหลักบนเกาะจนมีภรรยาเป็นชาวเลในเวลาต่อมา ได้แผ่อิทธิพลจนยึดครองที่ดินส่วนใหญ่บนเกาะ กระทั่งส่งต่อมรดกมาถึงลูกในปัจจุบัน

อิทธิพลบนเกาะที่ล้นเหลือจึงแผ่ขยายบารมีให้โกโต้งก้าวขึ้นเป็นนายก อบต.สตูล ได้ง่ายดาย และอย่าแปลกใจทำไมสิ่งผิดกฎหมายบริเวณชายฝั่งอันดามันฟากนี้จึงไม่มีข้าราชการคนไหนมองเห็น สตูลจึงไม่ใช่จังหวัดเล็กๆ อย่างที่เข้าใจอีกต่อไป