ของเสียครบ 1 ปี

โดย...ขำ เคืองใจ [email protected]

อีก 2 วันจะถึงวันที่ 22 พ.ค. 2558 ครบ 1 ปีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศ

แลหลังเมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตัดสินใจควบคุมอำนาจก็เพราะสถานการณ์บ้านเมืองอึมครึมหนัก 

ฝ่ายหนึ่งจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง อีกฝ่ายขอเลือกตั้งก่อนปฏิรูป ขนาบข้างด้วยมวลชนเป็นกองหนุนจดจ้องรอจังหวะฟาดฟัน ฝ่ายสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย มือที่สามหรือสี่ก็ดี สะสมอาวุธวางแผนจะแบ่งแยกประเทศกันบ้าง

ครั้นวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติเหลืออยู่ขณะนั้น พลิกรัฐธรรมนูญหานายกฯ ขัดตาทัพ พวกสูญเสียอำนาจตีความรัฐธรรมนูญว่าทำไม่ได้ประกาศข่มขู่จะเคลื่อนมวลชนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาประจันหน้า    

กองทัพเหมือนเป็นกรรมการกลาง อุตส่าห์เชิญทุกฝ่ายมานั่งพูดคุยหาทางออกแต่กลับยืนกรานจุดยืนตนเอง ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องทุบโต๊ะเปรี้ยงพร้อมลั่นวาทะแห่งปี “ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ไปขอตัดสินใจยึดอำนาจ”

เป็นการยึดอำนาจอย่างรวดเร็วไม่เสียเลือดเนื้อ เพราะเชิญคู่กรณี แกนนำนักเคลื่อนไหวไปปรับทัศนคติตามค่ายทหาร กลุ่มมวลชนสลายโดยปริยาย 

เพียงต้องการเป็นกรรมการกลางเพื่อให้ฝ่ายการเมืองร่วมกันหาทางออก แต่เมื่อไม่อาจตกลงได้ กรรมการกลางก็ต้องรับบทผู้เล่นในอำนาจเสียเอง

เกมแห่งอำนาจที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยตามปกติ ไม่มีใครอยากเข้ามาเล่นหรอกครับ... พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ คสช.ท่านรับรู้ดี

แม้มีเจตนาบริสุทธิ์ต้องการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” แต่มีนักการเมืองสูญเสียอำนาจไม่ต่างกับแมลงหวี่แมลงวัน บินสร้างความน่ารำคาญร้องแรกแหกกระเชอเอาประชาธิปไตยคืนมา เอะอะอะไรก็บอกว่าเผด็จการสั่งปิดหูปิดตา

เอ้า! เมื่อไม่ยอมรับเผด็จการ ทำไมพวกตัวเป็นๆ มีอำนาจตามระบอบประชาธิปไตยขณะนั้น ถึงแก้ไขปัญหากันเองไม่ได้  

เมื่อมีปมปัญหา มีข้อเรียกร้องต่างๆ คณะ คสช.รับลูกจัดการแก้ไขให้แทน ทั้งการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกที่มานายกฯ ยามวิกฤต

ปรากฏว่าบรรดานักการเมือง ผู้อ้างตนเป็นศาสดาประชาธิปไตยไม่ยอมรับอีก สร้างความงุนงงสงสัย ตกลงคนพวกนี้จะเอาไงกันแน่

1 ปี คสช.พยายามออกแบบบ้านเมืองให้เดินไปข้างหน้า แต่ 1 ปีของคณะผู้สูญเสียอำนาจมิเคยทบทวนความผิดพลาดบกพร่องตนเองแม้แต่น้อย

กลับใช้เวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เคลื่อนไหวนอกประเทศวาดภาพประเทศไทยช่างน่ากลัวตรงข้ามความจริงภายในประเทศเสียเหลือเกิน 

หากการประกาศ คสช.เข้าควบคุมอำนาจ “ไม่ให้เสียของ” คงพอเห็นสิ่งแปลกปลอมในระบอบประชาธิปไตยแล้วล่ะว่า “อะไรคือของเสียที่ควรปฏิรูปมากที่สุด”