ข้าวอีกคดี

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

คดีที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบายรับจำนำข้าวกำลังจะถูกชี้ขาดให้สังคมรับรู้อีกครั้ง

ในวันนี้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จะมีการประชุมเพื่อลงมติถอดถอน บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง ในกรณีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือไม่

ความจริงแล้ว ปัญหาการระบายข้าวไปจีนมีหลักฐานปรากฏมาตลอด แต่ที่น่าบันทึกกันไว้ก็คือคำแถลงปิดสำนวนเมื่อวานนี้ โดย วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.

วิชา ระบุว่า กระบวนการระบายข้าวแบบจีทูจีไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการทำตามกลอุบาย อย่างซับซ้อน โดยได้รับความร่วมมือจากข้าราชการประจำ เอกชน ทำงานเป็นขบวนการ สร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างร้ายแรง

ขั้นตอนทั้งหมดได้ละเว้น ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า บริษัท กวางตุ้ง และบริษัท ไห่หนาน เป็นตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนให้มาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริงหรือไม่ โดยชื่อของบริษัทบ่งบอกว่าทำธุรกิจค้าขายเครื่องเขียนและกีฬา ไม่ใช่บริษัทค้าข้าว

ตัวแทน 2 บริษัท ยังเดินทางมาไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ไม่สมฐานะในฐานะผู้แทนการค้าระหว่างประเทศ  และคนไทยที่เป็นตัวแทนให้บริษัททั้งสองแห่ง เป็นแค่พนักงานส่งเอกสาร และคนขับรถของบริษัท สยามอินดิก้า เท่านั้น แต่มาทำสัญญาเป็นหมื่นล้าน เงินที่นำมาชำระค่าข้าวยังมาจากผู้ค้าข้าวภายในประเทศ

การอ้างว่าค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จึงเป็นกลอุบายที่สร้างขึ้นมาเพื่อสมคบคิดและอุปโลกน์  เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ มีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เร่งรีบทำสัญญาซื้อขาย และเร่งรีบให้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ภายหลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวเพียง 2 วัน

ทั้งหมดเป็นจีทูจีแบบลวงโลก ลวงรัฐ และหลอกลวงประชาชน ซ้ำเติมความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน โดยอาศัยกลอุบายเล่ห์กะเท่

เหล่านี้คือคำปิดคดี หรือการกล่าวโทษที่ถือว่าหนักหนาสาหัสเอาการ

ติดตามกันได้ให้ดี สุดท้ายได้เห็นกันแน่ว่าลงเอยเช่นไร