มาได้พอเหมาะ
ถือว่าเป็นสิ่งที่มาได้ถูกจังหวะเวลาจริงๆ
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ถือว่าเป็นสิ่งที่มาได้ถูกจังหวะเวลาจริงๆ
ขณะที่รัฐบาลกำลังหมุนซ้ายหมุนขวากับทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ จู่ๆ บริษัท Japan Credit Rating Agency หรือเจซีอาร์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ และสกุลเงินบาท ที่ระดับA- และ A ตามลำดับ
ที่สำคัญคือการปรับสถานะมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจากลบ (Negative Outlook) เป็นมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
เจซีอาร์มองว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างจำกัด แต่ฐานะทางการคลังของประเทศยังคงแข็งแกร่ง จากการที่รัฐบาลปฏิบัติตามกรอบวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด
นอกจากนั้น ถึงแม้ว่าหนี้สาธารณะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ทว่า สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อขนาดเศรษฐกิจก็ยังอยู่ในระดับต่ำ
ในเวลาไล่เลี่ยกันกับที่เจซีอาร์ปรับมุมมองด้านเศรษฐกิจดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ก็เดินทางมาไทย โดยถือเป็นนายกรัฐมนตรีรัสเซียคนแรกในรอบ 25 ปี ที่เดินทางมาเยือนไทย
การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ไทยกำลังมีปัญหากับสหรัฐอย่างหนัก ขณะเดียวกันรัสเซียก็เร่งหาพันธมิตรเช่นกัน หลังจากถูกสหรัฐและชาติตะวันตกปิดล้อม
รัสเซียเสนอแนวทางความร่วมมือที่หลากหลาย อาทิการขายอาวุธ และจะรับซื้อสินค้าเกษตรอย่างยางพารา อย่างน้ำยาง 8 หมื่นตันในปีหน้า
รูปแบบการค้ารัสเซียจะใช้บริษัท รอสเทค รัฐวิสาหกิจด้านกลาโหม เป็นผู้ดำเนินการ โดยรอสเทค ถือหุ้นในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของรัสเซีย และมีเครือข่ายในด้านผลิตอาวุธ รถยนต์ และเหล็ก
ไทยและรัสเซียยังเห็นพ้องร่วมผลักดันมูลค่าการค้าเป็น 2 เท่าในปี 2559 เข้าสู่ระดับ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 3 แสนล้านบาท
ความร่วมมือระหว่างไทยและรัสเซีย จึงมาได้จังหวะเวลาที่ดีอีกเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็คงถูกสหรัฐไล่ถลุงอยู่ร่ำไป
แผนใช้โลกล้อมไทย ก็เห็นจะต้องเกิดรูโหว่ขึ้น
บ้านเมืองนี้เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองจริงๆ