ยกเครื่อง ครม.
หากเปรียบรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นรถยนต์เวลานี้
โดย...เลอลักษณ์ จันทร์เทพ
หากเปรียบรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นรถยนต์เวลานี้ คงบอกได้ทันทีว่าสมรรถนะในการใช้งานลดลงอย่างมาก เหมือนรถที่ถูกใช้งานอย่างสมบุกสมบัน และอะไหล่ภายในเครื่องยนต์มีปัญหา
ไล่เช็กทีละชิ้นส่วน เริ่มชิ้นส่วนการทำงานบริหารประเทศด้านความมั่นคงก็พบว่ายังไม่เรียบร้อย เพราะมีทั้งกลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวในหลายรูปแบบ รวมถึงยังถูกกลุ่มต่อต้านจากพลังนักศึกษา ที่หน่วยงานความมั่นคงด้านจิตวิทยายังเกาไม่ถูกที่คัน และการก่อเหตุระเบิดใจกลางเมืองยังไม่คลี่คลาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ระหองระแหง
ส่วนอะไหล่ด้านการเมืองมีปัญหา โดยเฉพาะปมความขัดแย้ง และปมคดีของสองอดีตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยถูกมองว่าโดนไล่ล่าบ้าง กลั่นแกล้งบ้าง จึงทำให้ความขัดแย้งถูกจุดชนวนขึ้นมาอีก
ขณะที่ชิ้นส่วนการทำงานด้านเศรษฐกิจ มีประชาชนและเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ด้วยปัญหาข้าวยากหมากแพง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามคาด
แม้แต่ปัญหาอาชญากรรมความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนน่าวิตก ทั้งๆ ที่ประเด็นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกแต่กลับมีเหตุร้ายรายวัน ไม่เว้นแม้แต่นักศึกษาไล่ตีกันราวกับว่ากฎหมายพิเศษไม่มีความหมาย
ทั้งนี้ เมื่อปัญหาเหล่านี้คือปัญหาที่หัวหน้า คสช.บอกว่าคือเหตุผลหนึ่งที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศเดินหน้าได้ แต่เมื่อเวลาผ่านเกินครึ่งปีปัญหาต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ดังนั้น ทุบโต๊ะเลยว่าถึงเวลาที่ คสช.และรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจเปลี่ยนอะไหล่ยกเครื่องยนต์ ถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือพูดง่ายๆ ต้องปรับคณะรัฐมนตรีบ้าง เพราะหากดูแล้วทำงานแบบโลกลืม เวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึงปีของรัฐบาลและ คสช.คงจะไม่ทันการณ์และจะเสียของเปล่าๆ