ทางเลือกทางรอด

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

สถานการณ์รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเดินมาสู่จุดเป็นจุดตายอีกครั้ง จากการรวมตัวของมวลมหาประชาชนทุกทิศทางที่หลั่งไหลออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 11 พ.ย.2556

ด้านหนึ่งมีมวลชนปักหลักชุมนุมบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คอยกำกับดูแล ปรับรูปแบบเวทีให้เป็นเวทีของประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกิจกรรมแสดงพลังต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม

อีกด้านมีกลุ่มเครือข่ายนักธุรกิจ ภาคประชาสังคม สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย นัดหมายชุมนุมบริเวณพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ที่แน่ๆ มี 4 จุดประกาศออกมาแล้ว คือ สีลม แยกอโศก รัชดาภิเษก สะพานควายอารีย์ โดยทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันพิพากษาร่างกฎหมายนิรโทษโกงให้ไม่ได้ผุดได้เกิดในรัฐสภาอีกต่อไป

ไม่เพียงเท่านั้น ศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กลุ่มมวลชนทุกทิศทางออกมารวมตัวครั้งใหญ่ หากผลการตัดสินเป็นไปในทางที่ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดน ย่อมทำให้สถานการณ์ชุมนุมแต่ละพื้นที่ทวีความเข้มข้นขึ้นมาได้

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวันที่ 11 พ.ย.นี้ จึงต้องหันไปโฟกัสที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะหาทางต่อสถานการณ์อย่างไร จะลาออก หรือยุบสภา หรือขอโอกาสบริหารประเทศต่อไปด้วยการขอโทษประชาชน ให้สัตยาบันจะไม่บริหารงานเพื่อเอื้อคนคนเดียวอีกต่อไป

แต่ที่แน่ๆ การหาทางออกในลักษณะเปิดโอกาสให้แกนนำคนเสื้อแดงปลุกระดมมวลชนตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ในทำนองพร้อมมาเผชิญหน้ากับมวลมหาประชาชนฝ่ายเห็นต่างดูจะไม่ใช่สิ่งถูกต้อง หากถ้าเดินหน้าต่อไปแบบนี้ ทุบโต๊ะ ได้เลย สถานการณ์จะบานปลายจนนำมาซึ่งความรุนแรงกลับมาสู่วงจรอุบาทว์อย่างไร้ทางออก