ฝรั่งทิ้งหนัก

โดย...นายกระทิง & หญิงฟลอร์

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ 1 ทศวรรษที่ยั่งยืน ฉบับวันพุธที่ 21 ส.ค. 2556

...ดัชนี SET ลงโอเวอร์แบบไม่ปกติ วานนี้ (20 ส.ค.) ร่วงอีกกว่า 40 จุด หนักกว่าจีดีพี ซะอีก ยังดีท้ายตลาดมีแรงไล่ซื้อหุ้น ปตท. (PTT) กระชากราคาจากลบ 45 บาท ขึ้นมาบวก 3 บาท ดึง SET กระเตื้องปิด 1,370.86 จุด ลดลง 27.62 จุด มูลค่าซื้อขาย 58,041.96 ล้านบาท

...ต่างชาติขายสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท

...ตลาดตกเลือดสาดแบบนี้ เลยเวลาเรียกเงินมาวางเพิ่ม ถึงขั้นต้องบังคับจับขายของกันแล้ว และไม่ได้เป็นแค่ตลาดหุ้นไทยเท่านั้น อินโดนีเซียแย่หนักดิ่งถึง 4% ลงก้นเหว ตลาดหุ้นฮ่องกงและญี่ปุ่น ตกหนักไม่แพ้กัน 2% เศษ ฟิลิปปินส์รอดตัวเพราะตลาดยังไม่เปิด

...โยนกันไป-มา ปัญหาเกณฑ์มาร์เก็ตแคป ผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย “ตลาดหลักทรัพย์–ก.ล.ต.ที่ปรึกษาการเงิน” สุดท้ายตกอยู่ที่ปรึกษาการเงินที่เป็นคนกำหนดราคาขาย IPO ก.ล.ต.สรุปตั้งแพงเกินไป งานนี้ “บล.บัวหลวง” ที่ปรึกษาการเงิน อนันดาฯ (ANAN) และ บล.เอเซีย พลัส พี่เลี้ยง เพซ ดีเวลลอปเมนท์ (PACE) ส้มหล่นแจ็กพอตแตก ก.ล.ต.ว่าตั้งราคาไม่เหมาะสม ทั้ง “ก้องเกียรติ โอกาสวงการ” และ “พิเชษฐ์ สิทธิอำนวย” สะดุ้งโหยง

...เมื่อตลาด-ก.ล.ต. ยังเดินหน้าใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคปต่อไป คงไม่มีใครกล้าใช้เกณฑ์นี้เข้าตลาดหุ้นแล้ว แย่ไปกว่านั้น นักลงทุนที่บาดเจ็บเกณฑ์นี้ ก็ไม่มีใครกล้าซื้อ เห็นๆ กันอยู่ขาดทุนตั้งแต่จองซื้อ ส่วนบริษัทที่ขาดทุน กัดฟันทำกำไรรอเวลาเข้าตลาดหุ้นจะดีกว่า

...ขุนคลัง “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ตั้ง “โสภาวดี เลิศมนัสชัย” เลขาธิการ กบข. (กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ) เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินในคณะกรรมการ ก.ล.ต. แทน “เบญจา หลุยเจริญ” ที่ลาออกตั้งแต่ 19 ส.ค.เป็นต้นไป