posttoday

1ปีรัฐบาล"สุขกันเถอะเรา"

20 สิงหาคม 2555

1 ปีแห่งความสำเร็จในการจัดสรรอำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องจึงทำให้เกิดความรู้สึกตายด้านต่อปัญหาความเดือดร้อนประชาชนไปโดยพลัน

โดย....อสนีบาต

เผลอแผล็บรัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศจะครบ 1 ปีวันที่ 23 ส.ค. นี้   ย้อนกลับไปช่วงของการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28  ได้ออกมาแถลงต่อสาธารณชนจดจำทะลุสองรูหูถึงวันนี้ “ดิฉันจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนทุกคน  ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ ยึดหลักนิติธรรมนะคะ”

ทว่าครึ่งปีแรกของการบริหารประเทศ ต้องขอเล่าเรื่องจริงไม่อิงนิยาย รัฐบาลยิ่งลักษณ์เริ่มออกลวดลายจนเกิดเสียงวิจารณ์ขรมทั่วเมืองเข้ามาจัดแจงปูทางเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  จากที่เคยลั่นขอทำหน้าที่เพื่อประชาชนทุกคน ก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังบาทา กลายเป็นทำหน้าที่เพื่อคนคนเดียว

กล่าวแบบนี้เพราะพฤติกรรมบ่งชี้ ผ่านความเคลื่อนไหวลูกสมุนขยันขันแข็งตั้งแต่ได้อำนาจ ก็เริ่มสุมหัวสุมควันเล็งออกกฏหมายลบล้างความผิด จากความพยายามขอเอี่ยวพรฎ.อภัยโทษแต่ต้องล้มไปก่อน  วาดโมเดลแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับอ้างว่าประชาธิปไตยเบ่งบาน  แต่ซ่อนมาตราเอื้อให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศโดยไม่มีความผิด 

ตามด้วยความแข็งขันจากรัฐมนตรีกระทรวงบัวแก้ว เดินสายสานสัมพันธ์นานาประเทศจนสามารถปลดล็อควีซ่าให้อดีตนายกฯได้เฉิดฉายรอบโลกตั้งแต่ญี่ปุ่นจรดอเมริกา

ผู้นำหญิงคนแรกของประเทศ ถูกกำหนดบทบาทจากพี่ชายผู้มากประสบการณ์ถึงขั้นยอมรับ "น้องสาวคนนี้โคลนนิ่งมาจากผมเลย"  จริงอยู่เค้าโคลงใบหน้าไม่เหลี่ยม  แต่เหลี่ยมคูทางการเมืองน่าดูชม ด้วยการใช้ความได้เปรียบทางใบหน้าเป็นแรงหนุนนำ "สวยกู้ชาติคร้า" ประมาณว่าความงามมาก่อน ส่วนกึ๋นไว้ลุ้นเอาดาบหน้า

ครึ่งปีแรกของรัฐบาลออกไปทาง "รัฐบาลปูคิกขุ" เพราะทันทีที่สื่อมวลชนไถ่ถามการแก้ปัญหาชาติอย่าบังอาจเจาะลึกเด็ดขาด เนื่องจาก "ปูคิกขุ" ท่องคัมภีร์ตอบ “ไม่ทราบคร้า”  “เป็นเรื่องของสภาคร้า” 

แม้จะเลื่ยงบาลีหนีสื่อ  แต่ในชีวิตนายกฯหนีไม่พ้นต้องโชว์เดี่ยวไมโครโฟน ทั้งกล่าวสุนทรพจน์  เจื้อยแจ้วออกรายการพบประชาชน  เหมือนพาพ่อแม่พี่น้องเข้าสู่รายการ ปูชวนยิ้ม ตอน วจีสวยรวยคำผิด

หลากหลายเนื้อหาถูกกลั่นจากสมองผ่านปลายลิ้นนำพาผู้คนอลเวงทั้งประเทศ กรณีตัวอย่างสร้างความสุข อาทิ คอนกรีต อ่านว่า คอ-นก-รีต   หญ้าแฝก อ่านว่า หญ้าแพรก  หรือข้ามประเทศแต่งตั้งระบอบการปกครองใหม่  จากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย  กลายเป็น ประธานาธิบดีมาเลเซียซะงั้น หรือล่าสุดในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ชื่นชม แก้ว พงษ์ประยูร เป็นนักมวยปล้ำเหรียญเงินโอลิมปิกส์  ของพรรค์นี้ตำหนิไปเท่านั้นเพราะนี่คือเอกลักษณ์เหนือเอกบุรุษ ต้องคิดแบบสื่อในคอลโทรลเข้าไว้ พีอาร์ความสวยสร้างสรรค์บรรยากาศชาติ ในเมื่อฟ้าบันดาลตามที่ประชาชนเสียงส่วนใหญ่เลือกเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเป็นแบบนี้

ผ่านมาครึ่งปีหลัง ก้าวครบ 1 ปี จากความหลงไหลไปกับเสื้อผ้าหน้าผม สาละวนอยู่กับเครื่องแต่งกายหลายคอเล็คชั่น แต่ความจริงคือความจริงวันยันค่ำ  นั่นคือ ปมการเมือง ดุๆหนักๆทั้งนั้น จากฝ่ายเห็นต่างที่เคลื่อนไหวต่อต้านทั้งร่างกฎหมายปรองดอง  การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แถมมาเจอมหาอุทกภัย  ยังดีที่นายกฯปูได้กุนซือจากบ้านเลขที่ 111แนะนำให้ขับเน้นทำงานเพื่อส่วนรวมบ้าง จึงมาตั้งหลักได้ระดับหนึ่ง ปล่อยให้พี่ชายต้องร้องเพลงรอไปก่อน

ตอนนี้นายกฯไม่ใช่ปูคิกขุ อีกต่อไปแต่กำลังเพียรพยายามสร้างประเทศให้ทุกอย่างง่ายไปหมด ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินหมื่นแสนล้านใส่กองทุนต่างๆ  แม้แต่การถมเม็ดเงินประเทศเติมเต็มโครงการรับจำนำข้าวแม้จะมีซุ้มเสียงจากภาคนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ สถาบันทีดีอาร์ไอ แสดงความเป็นห่วงต่อนโยบายดังกล่าวกำลังหลงทิศแต่ก็ไม่ฟัง เดินหน้าต่อไปแบบไร้ความกังวล

ไม่น่าเชื่อตลอด 1 ปี   ไม่มีความคืบหน้าต่อการปฏิรูปสังคม เด็ก เยาวชน เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ตีรันฟันแทง บ่มเพาะความรุนแรง ก็หาได้ที่รัฐบาลจะให้ความใส่ใจ  ขณะที่ปฏิรูปที่ดินจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมก็หามีไม่ จึงไม่ปรากฎการผลักดันการจัดเก็บภาษีที่ดิน มรดกจากนักการเมืองรวยล้นฟ้า   

ตรงกันข้ามรัฐบาลแสดงให้เห็นถึงความไม่กังวลต่อความไม่เท่าเทียม ถึงขนาดจัดงานปาร์ตี้พรรคร่วมรัฐบาลเปิดแชมเปญอิ่มหนำสำราญเมนูราคาแพงตามสไตล์ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ทั้งที่เคยกล่าวหาผู้อื่นเป็นอำมาตย์

1 ปีแห่งความสำเร็จในการจัดสรรอำนาจเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องตนเอง จึงทำให้เกิดความรู้สึกตายด้านต่อปัญหาความเดือดร้อนประชาชนไปโดยพลัน  จึงไม่แปลกที่ช่วงเวลาแห่งการสังสรรค์รื่นเริงเป็นจังหวะเดียวกับที่ไฟใต้ร้อนระอุ เสียงระเบิดจากโรงแรมปลายด้ามขวานมันจึงไม่ดังถึงโรงแรมเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยการบรรเลงเพลงร้องลั่น “สุขกันเถอะเรา” ครบหนึ่งปีแล้วจ๊ะพี่ชาย