ทิ้งไพ่ใบโง่

โดย....อสนีบาต

ความโดดเด่นของนักการเมืองที่มีเงินทองมหาศาล มักเป็นตัวแม่เหล็กดูดผู้คนมากหน้าหลายตามายึดติดกันแน่น การมีบริวารจำนวนมากก็เหมือนถือไพ่ในมืออยู่หลายใบทำให้สามารถเลือกเล่น เลือกใช้งานในหลายภารกิจ

ขณะที่ตัวเล่นในมือก็ทำตัวเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ยอมจำนนตามใบสั่งทุกครั้งไป ไม่ว่าจะให้ไปขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการอ้างว่าเพื่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แต่เนื้อในยัดไส้มาตราที่เอื้อประโยชน์ให้กับตัวข้ากลายเป็นการสร้างประชาธิปไตยตามที่ข้าต้องการแต่ผู้เดียว หรือจะวางผู้เล่นให้ไปปลุกกระแสโค่นเสาหลักบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็น สถาบันศาล กองทัพ สถาบันเบื้องสูง  พร้อมทำตามอยู่แล้ว

ไพ่ใบที่หนึ่ง คือ ลูกสมุนที่เป็นนักชุมนุมอาชีพ  ชีวิตนี้เก่งกล้าสามารถจากการแหกปากปลุกระดมจนได้ดี  หาได้มีความคิดอ่านบ้านเมืองมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นตัวเลขเท่าไหร่แล้ว  รู้อยู่อย่างเดียวต้องสร้างตัวเลขผู้ชุมนุม ให้มากเข้าไว้  เกาะเกี่ยวกันให้เหนียวแน่น ด้วยการวางกลยุทธ์สร้างเครือข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่  ระดมหาสมาชิก แต่งตั้งผู้จัดการสาขาเครือข่าย ใครหาสมาชิกได้มากก็ได้ผลตอบแทนมากมีโอกาสเป็นแกนนำหลักจ้อหน้าเวทีได้นานๆ ไต่ระดับติดดาวเอาไปแลกตำแหน่งเทกระโถนทำเนียบรัฐบาลจนถึงเสนาบดีทางการเมือง ส่วนใครหาสมาขิกได้น้อยก็ต้องลดบทบาทตัวเองไปฝึกปรือเขย่าอยู่ข้างล่างเวทีต่อไป

ไพ่ใบที่สอง ผ่องถ่ายคนในคอนโทรลเข้าไปอยู่ในอำนาจรัฐ - นิติบัญญัติ  เพื่อให้เคลื่อนไหวเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง โดยใช้ช่องทางตามกฎหมายที่มีอยู่ จะด้วยการเนรมิตกฎหมายใหม่ให้ตนเองกลับมามีอำนาจ  กำหนดบุคลากรเครือญาติ คนใกล้ชิดเข้าไปยึดกุมกลไกการบริหารราชการไว้ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ แม้จะรับรู้ดีว่าพฤติกรรมเช่นนี้ท้าทายจริยธรรม คุณธรรม ย่อมโดนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็หาเหตุหักล้างพวกปากหอยปากปูได้ว่า ในเมื่อได้รับการเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตย ได้รับฉันทามติจากมหาชน ก็มีอำนาจถูกต้องตามกฎหมาย จะจับวางเลือกใครมาทำหน้าที่ก็ทำได้

จริงอยู่การมีสมุนกระหายเศษเงินเข้ามารับใช้จำนวนมาก นับเป็นผลดีของมหาเศรษฐีการเมืองสามารถเลือกตัวเล่นการเมืองหลายหน้า  แต่ขณะเดียวกันกำลังนำมาซึ่งผลร้ายอันเกิดจากเหล่าคณะที่พยายามเสนอหน้าพิทักษ์นายอีกเช่นกัน

เหตุจากไพ่ใบที่หนึ่งตะบี้ตะบันชุมนุมราวกับบ้านนี้เมืองนี้กำลังใกล้ยุบสภาจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเร็ววัน  ขณะที่ไพ่อีกใบหนึ่งซึ่งยึดกุมอำนาจบริหาร ต่างก็พยายามรักษาอำนาจรัฐให้นานที่สุดเพราะรับรู้ว่า อภิมหาโครงการบริหารชาติกำลังจ่อเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำ 3 แสนล้านบาท ซึ่งกำลังเดินหน้าเตรียมเปิดซองให้บริษัท เข้ามารับงาน จะเชื่อมโยงใกล้ชิดกับนักการเมืองรายใด อีกไม่นานก็จะได้เห็น  ล้วนเป็นอภิมหาโครงการสร้างผลประโยชน์มหาศาล ต่างคนต่างได้แบ่งปันกินเปอร์เซนต์สุขอุรา เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งคนอยู่ในอำนาจรัฐและคนจ้องใช้อำนาจรัฐหาประโยชน์ต่างก็ต้องช่วยกันประคับประคองเสถียรภาพรัฐบาลไว้ให้นาน ไม่ให้ชิ้นปลามันต้องหลุดลอย 

ทว่าผู้เข้ามายึดครองอำนาจรัฐ ต้องมาหงุดหงิดกับพวกเดียวกันที่กำลังปลุกเร้าชุมนุมทำลายบรรยากาศเพราะทำให้แผนแสวงหาประโยชน์ชาติต้องหลุดลอยไปด้วย ทั้งที่ไพ่สองใบอยู่ในมือมหาเศรษฐีการเมืองแท้ๆ  แต่กำลังเป็น “ไพ่ตัวโง่” ทำลายกันเอง

ไม่แปลกใจเลย ที่มีเสียงบ่นจากหัวหน้าเสนบดีหอคอยงาช้าง ออกอาการหงุดหงิด “นายจืดสาขา 111”  แสดงผลงานด้วยการเคลื่อนไหวไม่เลิกจากการจัดเสวนาดิสเครดิตสถาบันศาล   ถึงขั้นเหิมเกริมทำจดหมายเปิดผนึกกดดันเสนาบดีหอคอยงาช้างให้กำหนดท่าทีร่วมด้วยช่วยขย่มตุลาการ   แต่สุดท้ายคนหอคอยงาช้างไม่เห็นดีเห็นงามกับนายจืดสาขา 111 แถมยื่นโนติสอย่าดึงฝ่ายบริหารเข้าไปเกี่ยวข้อง เดี๋ยวจะบานปลายกลายเป็นฝ่ายบริหารเข้าไปแทรกแซงฝ่ายตุลาการ จึงไม่รู้ว่า นายจืด111 รับรู้ความเป็นไปเช่นนี้หรือไม่ 

ไม่แปลกใจเลยที่มีคลิปเสียงลับจากย่านถนนอู่ทองใน ร่ายยาวเตือนภัยมหาเศรษฐีพักรบการเมืองไว้หน่อยเถอะ อย่าใจร้อนมูมมามคิดจะเอาโน้นเอานี้ สุดท้ายก็จะไม่ได้อะไรเลย

ไม่แปลกใจเลยได้เห็นการแก้ปัญหาชาติผูกขาดอยู่กับการตัดสินใจในวงศ์ตระกูล   คนหนึ่งถูดตัดสิทธิการเมืองแต่บงการชี้นำผู้มีตำแหน่งตามกฎหมายได้ คนหนึ่งนั่งหัวโต๊ะกำหนดทิศทางพรรค  คนหนึ่งแฝงตัวในสภาเช็คยอดส.ส.คุมการโหวตเมื่อมีวาระเกี่ยวข้องกับมหาเศรษฐีเข้าสภา  

นับวันพรรคมหาเศรษฐีจึงสาละวนอยู่กับกิจการครัวเรือน  ไม่ได้อยู่ในสภาพพรรคที่ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย อีกทั้งต่างคนต่างพยายามทำตัวเป็นไพ่ใบโง่ลงสนามเตะถ่วงกันเอง