posttoday

ตัวกู ของกู

30 พฤษภาคม 2555

ท่านพุทธทาส อินทปัญโญ ปราชญ์แห่งวงการสงฆ์ผู้ล่วงลับ กล่าวเอาไว้ว่าความไม่รู้ และทุกข์ทั้งหลายเกิดจากการยึด ตัวกู ของกู เห็นทุกอย่างเป็นอัตตา อยู่ร่ำไป

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ท่านพุทธทาส อินทปัญโญ ปราชญ์แห่งวงการสงฆ์ผู้ล่วงลับ กล่าวเอาไว้ว่าความไม่รู้ และทุกข์ทั้งหลายเกิดจากการยึด ตัวกู ของกู เห็นทุกอย่างเป็นอัตตา อยู่ร่ำไป

กระทั่งล่าสุดปม ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ว่าไปแล้วก็ไม่พ้นความคิดที่ยึด ตัวกู ของกู และดูเหมือนจะขยายวงไปกว้างกว่าเดิม ไปถึง นายกู พวกกู

การที่เข้าสู่วังวนแห่งความไม่รู้ ยึดแต่ตัวกู ของกู ล้วนแต่ทำให้เกิดความเห็นผิด เห็นกงจักรเป็นดอกบัว คิดว่าจะทำอะไรก็ได้ ไม่ฟังแม้เสียงทัดทาน

โบราณท่านว่าไว้ แม้จิ้งจกทัก ยังต้องฟัง แต่นี่คนตะโกนทั้งเมืองยังไม่สนใจ

สาเหตุก็เพราะ ความเป็น ตัวกู ของกู เรื่องที่พวกกูได้ประโยชน์ มันบังตาก็ต้องว่ากันเต็มที่

แต่อีกด้านกลับไม่มองถึงความเสี่ยงที่จะตามมา โดยเฉพาะสิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย

ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงที่แฝงอยู่

ไม่ว่าจะเป็นการแตกแยกครั้งใหญ่ ที่เห็นกันอย่างชัดเจน

หรือแม้กระทั่งการทำลายหลักนิติธรรมทั้งมวล จากเนื้อหาของร่างกฎหมายที่เปิดเผยออกมา

ดังนั้น หากร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เป็นต้นตอให้เกิดความรุนแรง การปะทะถึงขั้นเลือดตกยางออก ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าไว้คนที่ต้องรับผิดชอบคนแรก คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

จะปฏิเสธความรับผิดชอบและโยนเป็นเรื่องของสภาฯ ไม่ได้

เพราะ ยิ่งลักษณ์ รู้สภาพแล้วว่า อะไรกำลังเกิดขึ้นจากทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน

ที่สำคัญ หากปล่อยให้สถานการณ์บานปลาย ลุกลาม อาจจะเอาไม่อยู่

การหยุดเงื่อนไขทั้งหมด ยิ่งลักษณ์ กระทำได้ เพียงแต่ประกาศชัดเจนว่า ไม่เอาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ว่าจะเป็นฉบับใดก็ตาม

ถ้าจะดึงดันเดินหน้า ก็ไม่ต่างจากการหักด้ามพร้าด้วยเข่า หลงในความไม่รู้ หลงในอำนาจตัวกู ของกู โดยแท้

การยุติเค้าลางความรุนแรง จึงต้องหยุดร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง

และต้องย้ำอีกครั้ง ยิ่งลักษณ์ สามารถกระทำได้ และต้องทำ เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่มันไม่ใช่เรื่องของสภาฯ แต่เป็นเรื่องความสงบของบ้านเมือง

ปมที่ต้องขบให้แตกก็คือ ต้องมองประโยชน์ส่วนใหญ่ ละ วาง ข้ามพ้นอัตตาที่มีอยู่

หยุดความเป็นตัวกู ของกู และรวมถึงพี่ของกูลงเสีย

ก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลย ทั้งตัวกู ของกู และพี่ของกู