ทรุดยกกำลัง3

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ไททานิค เป็นชื่อเรือสำราญที่ประกาศว่าไม่มีทางที่จะอับปางลงได้

แต่ไททานิค ชนภูเขาน้ำแข็งจมลงไปในทะเลเมื่อ 100 ปีก่อน ก่อให้เกิดตำนานมากมายจนถึงปัจจุบัน

ส่วน ไทยทานิค อาจจะเป็นชื่อสภาพเศรษฐกิจไทย ที่มีการยืนยันอย่างมั่นใจจะโตอย่างมั่นคงถึง 7% ในปีนี้ แต่ไปๆ มาๆ อาจไม่เป็นอย่างที่คิด สุ่มเสี่ยงชนภูเขาน้ำแข็งเอามากๆ

สัญญาณความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเริ่มจากไตรมาสแรกของปีนี้ที่การส่งออกหดตัวถึง 3.9% ขณะที่การนำเข้าขยายตัวมากขึ้น

ผลคือทำให้เกิดการขาดดุลการค้าถึง 5,189 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเป็นเงินไทยราวๆ 1.8 แสนล้านบาท

และการขาดดุลการค้า จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไตรมาสแรก อาจออกทะเล สุ่มเสี่ยงต่อการติดลบ ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วก็เป็นไปได้

และในทางทฤษฎี ถ้าเศรษฐกิจติดลบ 2 ไตรมาสติดกัน ก็ถือว่าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เอาละ ปัญหาของไทยทานิค เกิดขึ้นมาจากน้ำท่วม และคงต้องให้เวลาไปถึงกลางปีถึงเห็นชัดว่า อะไรจะเป็นอะไร

แต่สิ่งที่น่าห่วงก็คือ ภาวการณ์ข้างหน้า มันไม่สดใสเสียเลย

เพราะการส่งออกไตรมาสแรกที่ติดลบ มีสาเหตุหลายประการ แต่ตัวแปรสำคัญไม่ใช่เกิดจากภาวะน้ำท่วมอีกต่อไป

ปัจจัยหลักที่ทำให้การส่งออกเกือบทั่วโลกติดลบ มาจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ที่ยังไม่หยุดยั้ง และปะทุไปเรื่อยๆ

ประเทศผู้ส่งออกระดับโลก อย่างจีน สิงคโปร์ การส่งออกหดหาย และยังไม่มีแนวโน้มจะฟื้น

สำหรับไทยทานิค ก็เช่นกัน การส่งออก จะได้รับผลร้ายจากเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่องไปอีก

ขณะที่ภาวะภายนอกไม่เอื้ออำนวย แทนที่ภายในจะทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนที่มากขึ้น ทว่านโยบายรัฐบาลกลับก่อปัญหาเสียอีก

ตัวอย่างที่ชัดเจน คือการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญอย่างข้าว จากนโยบายจำนำข้าวเกวียนละ 1.5 หมื่นบาท ทำให้ต้นทุนข้าวของไทยแพง แข่งขันกับคู่แข่งได้ยาก

มูลค่าการส่งออกข้าวไตรมาสแรกจึงหดลดลงไปแล้ว 18,703 ล้านบาท และปีนี้ยังมองไม่เห็นอนาคต

ขณะเดียวกันนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท กลายเป็นตัวซ้ำเติมเข้าอีก โดยจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่าการขึ้นค่าแรงจะทำให้การส่งออกไม่ขยายตัวตามเป้าที่วางไว้

จริงหรือไม่จริง ไม่ต้องเถียงกัน ทุกอย่างจะปรากฏให้เห็นแน่

ของแพง ส่งออกหด เศรษฐกิจแย่ ทรุดทีเดียวยกกำลัง 3

อืมส์...ฝีมือช่างยอดเยี่ยมเสียจริง...!!!