ไม่แน่เสมอไป
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ปีเก่ากำลังจะผ่านพ้นไปในอีกไม่นาน ขณะที่ปีใหม่กำลังเข้ามาแทนที่
รัฐบาลตั้งความหวังปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ โดยขยายตัวถึง 7% จากที่สำนักต่างๆ พยากรณ์ไว้ว่าจะโตระดับ 45%
พื้นฐานความเชื่อว่าเศรษฐกิจจะโต 7% มาจากการที่รัฐบาลต้องเร่งใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันมาตรการต่างๆ ที่ออกมา อาทิ การรับจำนำข้าวเปลือกเกวียนละ 1.5 หมื่นบาท และค่าจ้าง 300 บาท จะเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจโตกว่าที่คาด
ใครจะถูก ใครจะผิด คงยากจะประเมิน
เพราะการประเมินภาวะเศรษฐกิจ ล้วนแต่เป็นการมองในมุมของแต่ละองค์กร โดยมีปัจจัยหลายประการที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเดาทางวิชาการก็คงไม่ผิด
เศรษฐกิจไม่ใช่ 1 บวก 1 เป็น 2 โดยอาจจะกลายเป็น 4 หรือติดลบไปเลยก็ได้
ตัวอย่างที่อยากจะยกขึ้นมาให้เห็นก็คือ ในช่วงปลายปี 2547 ประเทศไทยเกิดสึนามิใน 6 จังหวัดชายแดนภาคใต้สร้างความสูญเสียมหาศาล
ครั้งนั้นมีการประเมินว่า เศรษฐกิจในปีถัดมาคือ ปี 2548 จะต้องขยายตัวกว่าเดิม เนื่องจากรัฐบาลจะต้องใช้จ่ายสำหรับการฟื้นฟู
ปรากฏว่าในปี 2547 เศรษฐกิจขยายตัว 6.1% แต่ในปี 2548 กลับขยายแค่ 4.3% ต่ำกว่าที่เคยคาดเอาไว้
สาเหตุสำคัญเนื่องจากปี 2548 เกิดปัญหาราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นจนกระทบต้นทุนผลิตสินค้าทุกชนิด ผลผลิตเกษตรเสียหายจากภัยธรรมชาติ และการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกรอบที่ 3 ส่งผลทำให้การท่องเที่ยวเงียบเหงา
ที่สำคัญการส่งออกขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ดุลการค้าติดลบประมาณ 2.8 แสนล้านบาท
ปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่คาด
ทั้งหมดจึงน่าจะเป็นตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า หลังภัยพิบัติไม่ใช่สูตรสำเร็จเสมอไปว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวมากยิ่งขึ้น
โลกนี้อะไรๆ มันก็บ่แน่หรอกนาย...!!!