ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ย วันนี้ SET แกว่งตัวในกรอบ 1,248-1,285 จุด
SET ไซด์เวย์/แกว่งขึ้น กรอบ 1,248-1,285 จุด ลุ้นผลการประชุม กนง. วันนี้ ลดดอกเบี้ย 0.25% แต่ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นความเสี่ยง กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ BGRIM และ CPALL
KEY
POINTS
- ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันนี้
- ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ถูกประเมินว่าจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแนวรับ 1,248 จุด และแนวต้าน 1,285 จุด
- โบรกเกอร์แนะนำกลยุทธ์ลงทุน "Selective Buy" ในหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า ตลาดไซด์เวย์/แกว่งขึ้น การประชุม กนง. วันนี้ เราและตลาด คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยลง 25bps ผลสำรวจ Bloomberg มีเพียง 1 ท่าน จากทั้งหมด 24 ท่าน ที่คาดว่าคงดอกเบี้ย อีก 23 ท่าน คาดลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ชายแดนไทย-กัมพูชา อาจทำให้สหรัฐฯ นำประเด็นนี้มากดดันเรื่องภาษียังเป็นความเสี่ยง ทางเทคนิค ยังแกว่งตัวในกรอบรอการเบรก กรอบบนอยู่ที่ 1275/1285 ยืนเหนือได้จะเป็นการแกว่งตัวขึ้นต่อ ในขณะที่การอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1258/1248 ที่ต้องไม่หลุดต่ำกว่า
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BOJ (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%), ECB และ BoE (ตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ย นโยบาย) รวมถึง กนง. (ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ย 25bps สู่ 1.25%) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ย., PCE ต.ค. และตัวเลขภาคแรงงาน พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามรายชื่อผู้สมัครและนโยบายหลักแต่ละพรรค หลัง กกต. ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ.2569
ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลัก และ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาดไตรมาส 4/2568 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform แนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT
2.หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผล สำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ อีก 1 ครั้งในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ และปีหน้า 2 ครั้งในปี 2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สิน ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ sentiment บวกระยะสั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสัปดาห์นี้ แนะนำ AP GULF GPSC MTC SAWAD 2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT BJC) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ และ 3) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทําปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปี ราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BGRIM มีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มการปรับลดลงของต้นทุนก๊าซฯ ดอกเบี้ยและได้อานิสงค์เงินบาทแข็ง ในขณะที่กำไรหลักในไตรมาส 4/2568 คาดเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลงมากกว่าค่าไฟฟ้าที่ลด และคาดกำไรหลักยังโตต่อในปี 2569 อีก +24% จากความต้องการใช้ไฟเพิ่มตาม Data Center ราคาเป้าหมายสั้น 15.00 บาท
CPALL ปัจจัยกระตุ้นจากเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรฐกิจช่วงหาเสียงเลือกตั้งและคาดจะเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต YoY ในไตรมาส 4/2568 จากยอดขาย CVS แข็งแกร่งและมาร์ชั่น CVS กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป เป้าหมายระยะสั้น 45.00 บาท


