posttoday

KBANK ซื้อหุ้นคืนรอบ 5 ปี วงเงิน 8,800 ล้าน ไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น 14 พ.ย.-13 พ.ค.69

30 ตุลาคม 2568

กสิกรไทย ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น ในวงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท ระหว่าง 14 พ.ย.68-13 พ.ค.69 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน ในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 63

KEY

POINTS

  • คณะกรรมการธนาคารกสิกรไทย (KBANK) อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท จำนวนหุ้นไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น คิดเป็น 2% ของหุ้นทั้งหมด
  • กำหนดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2569 โดยจะซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • วัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารเงินกองทุน และคาดว่าจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) สูงขึ้น
  • ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือตั้งแต่ปี 63 KBANK ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน 1 ครั้ง วงเงินไม่เกิน 4,600 ล้านบาท จำนวนหุ้นไม่เกิน 23.93 ล้านหุ้น

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารวันนี้ (30 ต.ค.2568) มีมติอนุมัติให้ธนาคารดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินของธนาคาร ภายใต้วงเงินรวมไม่เกิน 8,800 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 47,386,552 หุ้น หรือไม่เกิน 2% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของธนาคาร 

โดยวิธีการซื้อด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 14 พ.ย.2568 ถึงวันที่ 13 พ.ย.2569 และราคาเสนอซื้อจะไม่เกินราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนวันซื้อหุ้นคืน บวกด้วยจำนวน 15% ของราคาปิดเฉลี่ย โดยเงินที่ใช้ซื้อหุ้นคืนจะเป็นเงินสดจากสภาพคล่องภายในของธนาคาร

นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า การซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินกองทุน โดยธนาคารได้คำนึงถึงความเพียงพอของเงินกองทุน สภาพคล่องส่วนเกินและผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ผู้ถือหุ้นของธนาคาร เนื่องจากในปัจจุบันธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระดับที่แข็งแกร่ง เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 21.60%

ธนาคารได้พิจารณาทางเลือกในการบริหารจัดการเงินกองทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงภาวะตลาด ผลการดำเนินงาน และระดับเงินกองทุน ซึ่งธนาคารเห็นว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นหนึ่งในทางเลือกที่เหมาะสมในสภาวะการณ์ปัจจุบัน ที่จะช่วยให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการเงินกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งจะทำให้ธนาคารมีมูลค่าทางบัญชีของส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงและมีจำนวนหุ้นของธนาคารลดลง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) สูงขึ้น อันจะทำให้ราคาหุ้นสะท้อนมูลค่าหุ้นที่แท้จริงได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ถือหุ้น

นายจงรัก กล่าวย้ำว่า ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ และมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ตอกย้ำการเป็นธนาคารที่ได้รับความไว้วางใจเสมอมา เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 และการจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Productivity) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน เพื่อสร้างคุณค่าและผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

ย้อนกลับไปในช่วง 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2563 พบว่า KBANK ประกาศซื้อหุ้นคืน จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมครั้งล่าสุด)  

ปี 2563

  • วงเงินซื้อหุ้นคืน : 4,600 ล้านบาท 
  • จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน : 23.93 ล้านหุ้น คิดเป็น 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด
  • ระยะเวลา : 24-27 ก.พ.2563
  • สิ้นสุดโครงการ : ซื้อหุ้นคืนรวม 23.93 ล้านหุ้น คิดเป็น 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด 
  • มูลค่ารวมที่ซื้อคืน : 3,207.97 ล้านบาท

KBANK ซื้อหุ้นคืนรอบ 5 ปี วงเงิน 8,800 ล้าน ไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น 14 พ.ย.-13 พ.ค.69

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น KBANK วันนี้ (30 ต.ค.2568) ล่าสุด เวลา 14.35 น. เพิ่มขึ้น 2.79% หรือเพิ่มขึ้น 5.00 บาท มาอยู่ที่ 184.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 184.50 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 178.50 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 2,362.18 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ