JAS รับทรัพย์ 5,137 ล้าน NT ยอมจ่าย JSTC คดีโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ 10 ต.ค.นี้
JAS เตรียมรับทรัพย์ หลัง NT ยืนยันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย 5,137 ล้านบาท ให้แก่ JSTC ภายใน 10 ต.ค.นี้ ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำฝั่งตะวันออก
KEY
POINTS
- บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ยืนยันจะชำระเงินจำนวน 5,137 ล้านบาท ให้แก่บริษัท จัสมิน ซับมารีนฯ (JSTC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS
- การชำระเงินดังกล่าวเป็นผลมาจากข้อพิพาทเรื่องส่วนแบ่งรายได้จากโครงการโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
- NT มีกำหนดชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายทั้งหมดให้แก่ JSTC ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2568
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทระหว่าง บริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (JSTC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT (บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT เดิม) เรื่องส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ (ฝั่งตะวันออก) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ NT ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามกฏหมายให้แก่ JSTC
ล่าสุด ในวันนี้ (6 ต.ค.2568) JSTC ได้รับจดหมายแจ้งยืนยันจาก NT ว่าจะดำเนินการชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามกฏหมาย (คำนวณดอกเบี้ยถึงวันที่ 29 ส.ค.2568) ให้แก่ JSTC เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,136,904,788.13 บาท ภายในวันที่ 10 ต.ค.2568
ก่อนหน้านี้ NT ได้มีหนังสือถึง JSTC เพื่อขอขยายกรอบระยะเวลาการเจรจายุติข้อพิพาทและระงับการเรียกเก็บดอกเบี้ยตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดออกไปถึงวันที่ 31 ต.ค.2568 ขณะที่ JSTC ยืนยันปฏิบัติตามกรอบเวลาของคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คือภายในวันที่ 29 ก.ย.2568
การที่ NT ต้องชำระหนี้ให้ JSTC ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากผลคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2566 สำหรับข้อพิพาทระหว่าง JSTC กับ NT เรื่องส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำฝั่งตะวันออก ได้มีคำพิพากษาให้ บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ให้ NT รับผิดชำระเงินจำนวน 3,395,351,212 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ซึ่งคำนวณถึงวันที่ 15 ก.พ.2566 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,678,488,033 บาท
ต่อมา NT ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองข้างต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
จากนั้นเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2568 JSTC ได้รับทราบคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดที่ไม่รับอุทธรณ์ของ NT และเพิกถอนกระบวนพิจารณาของ NT ทั้งหมด เป็นเหตุให้คดีถึงที่สุด ส่งผลให้มีผลบังคับตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ทำให้ NT รับผิดชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ซึ่งคำนวณถึงวันที่ 29 ก.ย.2568 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,147,596,571.64 บาท ให้แก่ JSTC โดย NT มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยต้องชำระหนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน กล่าวคือภายในวันที่ 29 ก.ย.2568