STECON ควง STPI ปิดพุ่ง รับสภาฯ โหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ คนที่ 32
ราคาหุ้น STECON ปิดพุ่ง 13.55% STPI บวก 2.00% รับสภาฯ โหวต “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 โบรกฯ แนะ “ซื้อ” STECON มองผลงานครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง
KEY
POINTS
- ราคาหุ้น STECON ปิดพุ่ง 13.55% STPI บวก 2.00% รับสภาฯ โหวต “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
- โบรกฯ แนะ “ซื้อ” STECON มองผลงานครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง
- เปิด 4 หุ้น 4 กองทุนรวม เกี่ยวโยงคนในกลุ่มตระกูล “ชาญวีรกูล”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.2568) ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ปิดการซื้อขายที่ 8.80 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 13.55% หรือเพิ่มขึ้น 1.05 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 9.25 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 7.90 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 1,201.60 ล้านบาท
บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ปิดการซื้อขายที่ 4.08 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 2.00% หรือเพิ่มขึ้น 0.08 บาท ราคาปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 4.26 บาท และปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 4.02 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 227.49 ล้านบาท
หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ผลการลงมติแบบขานชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับเสียงสนับสนุน 311 เสียง ถือว่าได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิก ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย ได้รับเสียงสนับสนุน 152 เสียง
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะสะสมหุ้น บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON โดยปัจจุบันมี Backlog (ไม่รวมสนามบินอู่ตะเภา) สูงถึง 100,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเซ็นสัญญาเพิ่มเติมในครึ่งหลังปี 2568 อีกราว 20,000 ล้านบาท ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 2568 ระดับ 7.3 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 4.5% ต่อปี
บล.พาย แนะนำ “ซื้อ” หุ้น STECON ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท โดยปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งหลังปี 2568 ยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ทั้งจากฐาน Backlog ที่มีอยู่กว่า 100,000 ล้านบาท และการไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู ไตรมาสละกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูล พบว่า หุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล “ชาญวีรกูล” ประกอบด้วย
1.บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON
- บริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทโฮลดิ้ง ของตระกูลชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 293,634,788 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 19.33%
- นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ (น้องสาวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 11 จำนวน 25,457,142 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.68%
- นายมาศถวิน ชาญวีรกูล (น้องชายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 4 จำนวน 72,124,242 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.75%
2.บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI
- บลจ.เกียรตินาคินภัทรเพื่อการจัดการทรัพย์สิน (รับโอนจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อการจัดการทรัพย์สิน) ถือหุ้นอันดับ 1จำนวน 178,306,142 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.84%
- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (บิดาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 7 จำนวน 64,589,765 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.56%
3.บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD
- บริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทโฮลดิ้ง ของตระกูลชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 2 จำนวน 31,616,005 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.02%
- นายเศรณี ชาญวีรกูล (ลูกชายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 10 จำนวน 5,048,047 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.12%
4.บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV
- นางอาทิตยา ชาญวีรกูล (น้องสะใภ้ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 29,966,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.75%
5.กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล หรือ HPF
- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (บิดาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 10 จำนวน 11,709,833 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.49%
6.กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า เอ็มเอฟซี อินดัสเตรียล อินเวสเมนท์ หรือ MII
- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (บิดาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 4 จำนวน 5,671,336 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.30%
7.กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี หรือ MNIT
- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (บิดาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 27 จำนวน 900,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.65%
8.กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-สแตรทิจิกสโตเรจฟันด์ หรือ M-STOR
- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (บิดาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือหุ้นอันดับ 27 จำนวน 410,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.67%


