posttoday

หุ้นตัวไหนเจ็บสุด ? หาก "ภาษีนำเข้าสหรัฐ" พุ่งสูง 18%

30 มิถุนายน 2568

จับตาภาษีสหรัฐ 18% เขย่าหุ้นส่งออกไทย เร่งเจรจาก่อนถึงเส้นตาย 9 ก.ค.นี้ โบรกชี้กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเสี่ยงหนัก! AAI-ITC เสี่ยงกำไรหายมากกว่า 7% ด้าน SAPPE-SCC รับผลกระทบจำกัด

KEY

POINTS

  • จับตาภาษีสหรัฐ 18% เขย่าหุ้นส่งออกไทย เร่งเจรจาก่อนถึงเส้นตาย 9 ก.ค.นี้
  • โบรกชี้กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเสี่ยงหนัก! AAI - ITC เสี่ยงกำไรหายมากกว่า 7%
  • ด้าน SAPPE - SCC รับผลกระทบจำกัด

การเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐกำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ! ท่ามกลางความกังวลเรื่อง "ภาษีนำเข้า" ที่อาจปรับสูงขึ้นถึง 18% ตามสมมติฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย

หุ้นตัวไหนเจ็บสุด ? หาก "ภาษีนำเข้าสหรัฐ" พุ่งสูง 18%

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า การเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ เริ่มมีความคืบหน้า ไทย-สหรัฐฯ เริ่มเจรจาภาษีนำเข้าตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. และไทยได้ส่งข้อเสนอให้สหรัฐฯ พิจารณาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. โดยคณะทำงานไทยคาดหวังว่าอัตราภาษีที่ไม่เกิน 10% ยังมีความเป็นไปได้ เทียบกับที่สหรัฐเคยประกาศไว้ที่ 36% ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.2568

จากนั้นได้ชะลอออกไปเป็นเวลา 90 วัน แต่ยังเก็บภาษีขั้นต่ำทุกประเทศ 10% และในระหว่างนี้ได้เปิดโอกาสให้คู่ค้าแต่ละประเทศยื่นข้อเสนอเพื่อเจรจากับสหรัฐฯ โดยมีเวลาก่อนที่จะถึงเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.2568 หากเจรจาไม่สำเร็จก็จะถูกเรียกเก็บภาษีตามที่ได้เคยประกาศไว้

โดยประเทศที่โดนภาษีสูงสุด คือ กัมพูชา 49% รองลงมาคือ สปป.ลาว 48% เวียดนาม 46% เมียนมา 44% และ ไทย 36% ขณะที่ จีนโดน 34% อินเดีย 26% เกาหลีใต้ 25% ญี่ปุ่น 24%

สำหรับประเทศที่มีความคืบหน้าในการเจรจามากสุด คือ "จีน" ที่ทั้งสองประเทศเห็นด้วยกับภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯจะลดลงเหลือ 30% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขครั้งแรกที่ 34% เพียงเล็กน้อย

หุ้นส่งออก รอด หรือ ร่วง ?

ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐจากประเทศไทย ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงเกินกว่า 10% ที่รัฐบาลไทยคาดไว้ กลุ่มส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ยังมีความเสี่ยงมากสุด เนื่องจากมีรายได้สหรัฐสูงถึง 50-60%

ปัจจุบัน "บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI" มีสัดส่วนรายได้ส่งออกไปสหรัฐ 60% และ "บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC" 50% ขณะที่หากอิงอัตราภาษีนำเข้าก่อนการประกาศมาตรการในเดือน เม.ย.2568 เดิมสหรัฐไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงจากไทย ปัจจุบัน baseline tariffs อยู่ที่ 10%

ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ประเมิน sensitivity กรณีอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐอยู่ที่ 18% ตามตัวเลขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้เป็นข้อสมมติฐาน ในการจำลองผลกระทบทางเศรษฐกิจจะกระทบกำไร AAI ปี 2569 เต็มปีราว -10% และ ITC -7% อิงสมมติฐานว่ายอดขายจากสหรัฐจะลดลง 18% ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขอัตราภาษีที่คาดว่าจะถูกเรียกเก็บ

ขณะที่ หุ้น "บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU" แนะนำถือ เป้า 10.50 บาท มีสัดส่วนรายได้ส่งออกไปสหรัฐ 40% ขณะที่หากอิงอัตราภาษีนำเข้าก่อนการประกาศมาตรการในเดือน เม.ย.2568 เดิมสหรัฐมีการเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องจากไทยราว 9-10%

เราประเมิน sensitivity กรณีอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐอยู่ที่ 18% จะกระทบกำไร TU ปี 2569 เต็มปีราว -3-5%

กดดัน "กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว" ได้แก่ "บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS" แนะนำถือ เป้า 3.50 บาท, "บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO" แนะนำซื้อ เป้า 11.50 บาท โดย PLUS มีสัดส่วนรายได้จากสหรัฐ 44%

ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินยอดขายสหรัฐที่ลดลง -8% ปัจจุบันเสียอยู่ที่ 10% จะกระทบกำไรปกติของบริษัทที่ -3.5% และ COCOCO มีสัดส่วนรายได้จากสหรัฐ 24% ประเมินยอดขายสหรัฐที่ลดลง -8% จะกระทบกำไรปกติของบริษัทที่ -2%

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์มองความต้องการผลิตภัณฑ์มะพร้าวไทยในตลาดโลกยังสูงและบริษัทได้มีการปรับขึ้นราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ทำให้มองผลกระทบที่จำกัด

อีกทั้งปัจจัยลบต่อ "บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER" แนะนำถือ เป้า 5 บาท แม้ปัจจุบันไม่มีสัดส่วนรายได้ส่งออกไปสหรัฐโดยตรง แต่ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าบริษัทมีโอกาสได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการที่ลูกค้าของบริษัทมีการส่งออกล้อยางไปสหรัฐ

เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์ประเมินสำหรับยอดขายโดยรวมของ NER ที่ลดลงทุกๆ -5% จะกระทบกำไรปี 2569 เต็มปี ราว -6%

ส่วนหุ้น "บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE" แนะนำถือ เป้า 33.50 บาท ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากระทบจำกัด เนื่องจาก distributor ที่สหรัฐเป็นผู้รับผิดชอบภาษี ทั้งนี้ SAPPE ส่งออกไปสหรัฐประมาณ 5%

พร้อมแนะนำขาย หุ้น "บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP" เป้า 12.00 บาท และ "บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC" เป้า 140 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าผลกระทบจำกัดเนื่องจากตลาดสหรัฐคิดเป็นประมาณ 4% ของรายได้รวมของ SCGP และเพียง 1% ของรายได้รวมของ SCC เท่านั้น

ด้านหุ้น "บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG" แนะนำ ซื้อ เป้า 3.40 บาท ด้วยกระทบจำกัด โรงงาน Aeroflex ที่สหรัฐฯมีการนำเข้าวัตถุดิบจากไทยจะกระทบต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น แต่บริษัทมีแผนที่จะปรับเพิ่มราคาขายขึ้นชดเชย ปัจจุบันคู่แข่งมีการปรับเพิ่มราคาขายแล้ว

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด นิวคาสเซิ่ล พบ เชลซี พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68