posttoday

ไหวมั้ย! หุ้นไอพีโอ 5 เดือนแรก เข้าเทรดแค่ 4 ตัว ร่วงไป 3 รอดแค่ 1

02 มิถุนายน 2568

สรุปให้ 5 เดือนแรก ไอพีโอเข้าใหม่แค่ 4 ตัว “PIS-MOTHER-LTMH-BKA” ผลตอบแทน พบ 1 หุ้น ราคายืนเหนือกว่าราคาไอพีโอ ส่วนอีก 3 หุ้น ราคาต่ำกว่าราคาไอพีโอ

KEY

POINTS

  • 5 เดือนแรก ตลาดหุ้นไทยร่วง 251.03 จุด หรือ 17.93% มาร์เก็ตแคปวูบ 3.2 ล้านล้านบาท 
  • ไอพีโอเข้าใหม่ 5 เดือนแรก แค่ 4 ตัว “PIS- MOTHER-LTMH-BKA” ผลตอบแทนพบ 1 หุ้น ราคายืนเหนือกว่าราคาไอพีโอ ส่วนอีก 3 หุ้น ราคาต่ำกว่าราคาไอพีโอ 

ดัชนีตลาดหุ้นไทย นับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงวันที่ 30 พ.ค.2568 (YTD : Year to Date) หรือรวมระยะเวลา 5 เดือน ปรับตัวลดลง 251.03 จุด หรือลดลง 17.93% จากสิ้นปี 2567 ปิดที่ 1,400.21 จุด มาปิดที่ 1,149.18 จุด เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา    

ทางด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ณ วันที่ 30. พ.ค.2568 อยู่ที่ 14,218,775.96 ล้านบาท หรือลดลง 3,214,977.49 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ระดับ 17,433,753.45 ล้านบาท

ขณะที่การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วง 5 เดือนแรก ปี 2568 (ม.ค.-พ.ค.2568) มีหุ้น IPO เข้าใหม่ เพียง 4 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 898.40 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 898.40 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 3,398.40 ล้านบาท    

โดยเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS เข้าจดทะเบียนในเดือน ม.ค.2568 และ บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER เข้าจดทะเบียนในเดือน ก.พ.2568 ขณะที่ในเดือน มี.ค.2568 ไม่มีหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนแม้แต่บริษัทเดียว 

จากนั้น บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH และ บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA เข้าจดทะเบียนในเดือน เม.ย.2568 ถัดมาในเดือน พ.ค.2568 ไม่มีหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนเช่นเดียวกับเดือน มี.ค.2568 

ทั้งนี้ มาดูในเชิง “ผลตอบแทน” หรือ “รีเทิร์น” ของหุ้นไอพีโอ 4 บริษัท ได้แก่ PIS, MOTHER, LTMH และ BKA ว่า ราคาเปิดเทรดวันแรก และราคาปิดเทรดวันแรก รวมไปถึงราคาหุ้นปัจจุบัน (30 พ.ค.2568) เมื่อเทียบจากราคาไอพีโอ เป็นอย่างไร 

ไหวมั้ย! หุ้นไอพีโอ 5 เดือนแรก เข้าเทรดแค่ 4 ตัว ร่วงไป 3 รอดแค่ 1

 

เริ่มกันที่ PIS ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา วางแผน ออกแบบพัฒนา และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยทางภายภาพและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (ICT-Solutions) รวมถึงการบำรุงรักษาอุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้อง 

PIS จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 เปิดเทรดวันแรก 3.90 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 30.00% จากนั้นปิดเทรดวันแรก 3.60 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 20.00% จากราคา IPO ที่ราคา 3.00 บาท และราคาปิด ณ วันที่ 30 พ.ค.2568 อยู่ที่ 4.04 บาท สูงกว่าราคา IPO ถึง 34.67%   

ถัดมา MOTHER ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านสำนักงานใหญ่และร้านสาขาชื่อ “ Mother Supermarket ” และ “ Mother Marche ” จำนวนรวม 20 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี รวมถึงมีศูนย์กระจายสินค้า 2 แห่งในจังหวัดกระบี่ และสุราษฎร์ธานี 
 
MOTHER จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2568 เปิดเทรดวันแรก 2.16 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.76 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 54.26% จากนั้นปิดเทรดวันแรก 1.61 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.21 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 15.00% จากราคา IPO ที่ราคา 1.40 บาท แต่ราคาปิด ณ วันที่ 30 พ.ค.2568 อยู่ที่ 1.22 บาท ต่ำกว่าราคา IPO ถึง 12.86%

ส่วน LTMH แบ่งธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) ธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มสื่อ ออนไลน์ ได้แก่ สื่อออนไลน์ แพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ และให้บริการทีปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร 2) ธุรกิจออฟไลน์ ได้แก่ จัดงานอิเวนต์ จำหน่ายหนังสือ 
 
LTMH จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2568 เปิดเทรดวันแรก 5.25 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 5.00% จากนั้นปิดเทรดวันแรก 5.05 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.00% จากราคา IPO ที่ราคา 5.00 บาท แต่ราคาปิด ณ วันที่ 30 พ.ค.2568 อยู่ที่ 4.90 บาท ต่ำกว่าราคา IPO 2.00%    

สุดท้าย BKA ประกอบธุรกิจให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย เป็นนายหน้าซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ และซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย 

BKA จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2568 เปิดเทรดวันแรก 2.40 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 33.33% จากนั้นปิดเทรดวันแรก 2.46 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.66 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 36.67% จากราคา IPO ที่ราคา 7.80 บาท แต่ราคาปิด ณ วันที่ 30 พ.ค.2568 อยู่ที่ 1.24 บาท ต่ำกว่าราคา IPO ถึง 31.11%   

ปรากฎว่ามีหุ้นที่มีผลตอบแทนเป็นบวก หรือราคายืนเหนือกว่าราคา IPO จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ PIS ส่วนหุ้นที่มีผลตอบแทนเป็นลบ หรือราคาต่ำกว่าราคา IPO มีจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ MOTHER, LTMH และ BKA

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี