13 หุ้น รับเซนติเมนต์ลบแจกเงินหมื่นเฟส 3 ส่อแท้ง กระทบเชื่อมั่น
เปิดมุมมองนักวิเคราะห์ต่อโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 3 ส่อล่ม หลังงบฯ เหลือไม่พอ ชี้กระทบต่อความเชื่อมั่นเป็นเซนติเมนต์ลบต่อ 13 หุ้น เชื่อมีมาตรการประคองการบริโภค
ตามที่รัฐบาลเตรียมจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งทบทวนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
การทบทวนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว นอกจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แล้ว หากมาพิจารณาในส่วนงบกลางปี 2568 ที่ถูกใช้ไปในโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางและผู้สูงอายุ จำนวน 37,000 ล้านบาททำให้เหลือเพียง 150,000 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 187,700 ล้านบาท
จากกรณีดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ที่มีแผนแจกเงิน 10,000 บาท จำนวน 18 ล้านคน คิดเป็นเงิน 180,000 ล้านบาท อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะงบกลางปี 2568 เหลือเพียง 150,000 ล้านบาทประกอบกับยังมีอีก 11 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ต้องใช้งบเพิ่มเติม
ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” สอบถามมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต่อโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ส่อแววไม่เกิดขึ้น พบว่า
“ภูวดล ภูสอดเงิน” ผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.บัวหลวง ประเมินว่า เป็น sentiment ลบกับค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภค (CPALL, CPAXT,CBG, OSP) อุปกรณ์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า (COM7,ADVICE, SPVI, CRC) ไฟแนนซ์-บริหารหนี้ (JMT,CHAYO, SAWAD, MTC, TIDLOR) เป็นต้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตลาดก็ยังไม่ค่อยกล้าสะท้อนปัจจัยบวกจากประเด็นนี้มากอยู่แล้ว แต่หากโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ไม่เกิดขึ้นจากกรณีงบกลางปี 2568 ไม่พอ น้ำหนักจะอยู่ที่ความเชื่อมั่นต่อภาพเศรษฐกิจ และการทำนโยบายข้างหน้ามากกว่า อาจจะเสียความเชื่อมั่น และยิ่งไม่ค่อยกล้าใช้จ่าย กระทบต่อการบริโภคในภาพรวมมากกว่าแค่ขาดโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3
“ณัฐพล คำถาเครือ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า มองเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องมีมาตรการประคองการบริโภค ดังนั้นเป็นลบเล็กน้อยต่อค้าปลีก