เชื่อมั่นฟื้น! หวังมาตรกระตุ้นเพิ่ม SET แกว่งกรอบ 1,180 - 1,220 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันพุธที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ “ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงสู่ระดับ 1.75%” เป็นไปตามคาด โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวลดลงและมี Downside มากขึ้นจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผสานเงินเฟ้อที่มีโอกาสต่ำกว่าเป้ากรอบล่างจึงทำให้คณะกรรมการส่วนใหญ่ปรับลดดอกเบี้ย

โดย กนง. ได้ประเมินฉากทัศน์ของเศรษฐกิจไทยออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1) การเจรจายืดเยื้อ โดยมีการผ่อนผันภาษีให้กับคู่ค้าเป็นระยะ ซึ่งคาดท้ายที่สุดภาษีในทุกประเทศจะเหลือ 10% ส่วนจีนจะเริ่มผ่อนผันในช่วงไตรมาส 3/68 และภาษีจีนเหลือ 54% ส่วนแนวทางที่ 

2) คาดทุกประเทศจะลดภาษีได้ครึ่งหนึ่งตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/68 ส่วนจีนจะถูกเก็บ 72.5% โดยผลกระทบของทั้งสองเคส คาดจะมี Downside ต่อ GDP ไทย ที่ -0.4% และ -1.0% ส่งผลให้ กนง. ประเมิน GDP ไทยปีนี้ในเคสแรกจะขยายตัว เหลือ 2% และเคสที่ 2 จะเหลือเพียง 1.3% เท่านั้น

ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะหนุนโมเมนตัมเชิงบวกต่อ SET ผสานเดือน พ.ค. ยังคาดมีปัจจัยเสริมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และการทยอยออกกองทุน TESGX หนุนเม็ดเงินใหม่เข้ามาช่วงพยุง ดังนั้นจึงคาด SET ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ โดยหุ้นที่แนะทยอยสะสม เดือน พ.ค. ฝ่ายวิเคราะก์แนะนำ CCET, GULF, PR9, SCGP

คาด SET วันนี้ “แกว่งขึ้น” ในกรอบ 1,180 - 1,220 จุด มติ กนง. ลดดอกเบี้ยเป็นโมเมนตัมบวก ผสานความคาดหวังมาตรกระตุ้นเพิ่มเติมในช่วงถัดไป และเม็ดเงิน TESGX ที่ทยอยเข้าพยุง ดังนั้นกลยุทธ์ยังเน้นย่อสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตดี 

สำหรับวันนี้แนะนำ “SCGP” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 17 บาท ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 ดีกว่าคาด ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/68 คาดยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง จากการเร่งส่งออกมากยิ่งขึ้น ก่อนการใช้มาตรการภาษีของทรัมป์ 

Fajar ดีขึ้น จากต้นทุนที่ลดลง โดยคาด EBITDA จะถึงจุดคุ้มทุนในไตรมาส 2/68 นี้ ขณะที่ Valuation ซื้อขายเพียง PBV 0.48 เท่า คาดเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม