หุ้นไทยพุ่ง 11.54 จุด รับส่งออกหนุน-ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น!

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังปรับขึ้น จากความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่อาจเร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงถัดไป

หากพิจารณาจากเครื่องมือ FED Watch Tool ล่าสุดพบว่าตลาดมองโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯในปีนี้อีก 3-4 ครั้ง โดยเร็วสุดคาดจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.นี้

ส่วนความคืบหน้าการเจรจาแม้จะมีความไม่ชัดเจนกับจีน แต่สหรัฐฯแสดงความคืบหน้ากับประเทศอื่น เช่น เกาหลีใต้และอินเดีย คาดช่วยลดแรงกดดันจากความตึงเครียดการค้า

ปัจจัยในประเทศ วานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดการส่งออกของไทย เดือน มี.ค. อยู่ที่ระดับ 29,548 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 17.8% จากปีก่อน สูงกว่าตลาดคาดที่เพิ่มขึ้น 12.8% จากปีก่อน เป็นจุดสูงสุดใหม่

โดยสินค้าส่งออกเด่น เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ ขยายตัว 80%, อัญมณี ขยายตัว 70%, แผงวงจรไฟฟ้า ขยายตัว 42%, ยางพารา ขยายตัว 20%, อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 12%, ไก่สดและแช่แข็ง ขยายตัว 5% 

การนำเข้า ขยายตัว 10.2%จากปีก่อนส่งผลให้ดุลการค้าเดือน มี.ค.เกินดุลกว่า 978 ล้านเหรียญ ขณะที่ในช่วงถัดไปยังคงต้องติดตามเรื่องความชัดเจนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯเพิ่มเติม

ด้าน หุ้นไทยวันนี้คาดยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,140 - 1,160 จุด โดยยังคงเน้นสะสมหุ้นที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/68 จะขยายตัวเด่น รวมทั้งหากมี Valuation ไม่แพง และปันผลอยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม 

คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1,140 - 1,160 จุด ขานรับโอกาสที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังได้แรงหนุนจากภาคการส่งออกที่ดีกว่าคาด ดังนั้นกลยุทธ์ยังเน้นสะสมหุ้นกำไรเด่น ที่ Valuation ไม่แพง และจ่ายปันผลสูง 

โดยวันนี้แนะนำ “OSP” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 21 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 1,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 112% จากไตรมาสก่อน จากอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดเพิ่มขึ้นเด่นสู่ระดับ 39.3% จาก 36.5% ในไตรมาส 1/67 

ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PE ที่ 14.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับกลุ่ม ผสานอัตราปันผลคาดสูงระดับ 6% เพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น