3K-BAT พุ่ง 85.84% รับข่าว ผถห.ใหญ่ เทนเดอร์ฯ 54 บาท ขอเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ไทย เอ็นเนอร์จี สโตเรจ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ 3K-BAT วันนี้ (29 พ.ค.) ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 24.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 85.84  มาอยู่ที่ 52.50 บาท ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 53.00 บาท และลงไปต่ำสุดที่ 52.25 บาท 

นายโยชิทากะ นิเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย เอ็นเนอร์จี สโตเรจ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ 3K-BAT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2567 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 25 ก.ค.2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2567 คณะกรรมการบริษัทได้รับหนังสือจาก Energywith Co.Ld. (เอ็นเนอร์จีวิท คัมปะนี, ลิมิเต็ด หรือ Energywith) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทโดยถือหุ้นทางตรงจำนวน 40,757,484 หุ้นหรือคิดเป็น 51.99% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท 

และถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท สยาม มากิ จำกัด (SMG) ซึ่งเป็นบุคคลตามมาตรา 258 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2335 จำนวน 36,123,223 หุ้น หรือคิดเป็น 46.07% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ทำให้การถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมกันในบริษัทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 76,880,707 หุ้น คิดเป็น 98.06% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

โดย Energywith แจ้งความประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ) สำหรับหุ้นสามัญที่เหลือจำนวน 1,519,293 หุ้น คิดเป็น 1.94% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ในราคาหุ้นละ 54.00 บาท (ราคาเสนอซื้อ)

ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้หากมีเหตุการณ์อันเป็นเหตุหรืออาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อฐานะหรือทรัพย์สินของบริษัทหรือต่อราคาหุ้นของบริษัท หรือเหตุการณ์อื่นใดซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการกำหนดราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ หรือเหตุการณ์อื่นใดตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 12/2554 เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)

อนึ่ง การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ๆ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขดังต่อไปนี้เป็นผลสำเร็จ ได้แก่ การผ่านอนุมัติจากผู้ถือหุ้นตามเงื่อนไร และต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคู่สัญญา

ทั้งนี้ Energywith แจ้งให้ทราบถึงความเป็นมาและเหตุผลในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ข้างต้นของหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท ดังนี้

ก) เนื่องจากปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับต่ำ ธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อและเพิกถอนหลักทรัพย์จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทขายหุ้นของตนได้

ข) ตามโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทในปัจจุบัน บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่อง การกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยตามที่กำหนดภายใต้กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของตลาดหลักทรัพย์ฯ (“กฎเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์”) ได้ ส่งผลให้อาจมีบทลงโทษบริษัทบางประการ หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจสั่งให้บริษัทเพิกถอนหลักทรัพย์จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยข้อกำหนดการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย 

ดังนั้น ธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อและเพิกถอนหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้หลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้การบังคับตามกฎเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวหมดไป

ค) ธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อและเพิกถอนหลักทรัพย์จะช่วยให้บริษัทมีความเป็นอิสระมากขึ้นและมีภาระน้อยลงจากกฎเกณฑ์และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) และตลาดหลักทรัพย์ฯ 

ดังนั้น ด้วยภาระผูกพันที่น้อยลงภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้บริษัทสามารถตัดสินใจได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพในกรณีที่บริษัทมีการปรับโครงสร้างและกรณีได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ตลอดจนเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการของบริษัท

ง) นอกจากนี้ บริษัทจะสามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากทรัพยากรด้านเทคนิค การตลาด การเงิน และ การจัดการของ Energywith ในฐานะหนึ่งในบริษัทในเครือของ Energywith และการร่วมมือกับบริษัทใน กลุ่ม Energywith หลังการทำธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อและเพิกถอนหลักทรัพย์ ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่าจะ มีการสร้างการทำงานร่วมกันมากขึ้นระหว่างกลุ่มบริษัทดังกล่าว

จ) เนื่องด้วยการรักษาสถานะของบริษัทที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจะยังคงต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ อันรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแต่การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์ และ/หรือ กฎหมายและค่าธรรมเนียมทางบัญชี 

ดังนั้นธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อและเพิกถอนหลักทรัพย์ที่ทำให้หลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่ เกี่ยวข้องดังกล่าวลดลง