posttoday

PANEL เปิดเทรดวันแรก 4.30 บาท เหนือจอง 16.85%

22 กุมภาพันธ์ 2567

PANEL เปิดเทรด mai วันแรก 4.30 บาท พุ่ง 16.85% จากราคาไอพีโอ 3.68 บาท นำเงินระดมทุนไปใช้สร้างโรงงานแห่งใหม่ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รับอานิสงส์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโตสูง ยอดสร้างโรงแรม-โรงพยาบาลพุ่งหนุนโอกาสเติบโต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (22 ก.พ.2567) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยเปิดที่ราคา 4.30 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.62 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 16.85% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 3.68 บาท 
 
ล่าสุด ปิดซื้อขายช่วงเช้า เวลา 12.30 น. ปรับเพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.54% มาอยู่ที่ 3.70 บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 706.72 ล้านบาท

PANEL เปิดเทรดวันแรก 4.30 บาท เหนือจอง 16.85%

ทั้งนี้ PANEL ประกอบธุรกิจผลิต นำเข้า และจัดจำหน่าย ผนังบานเลื่อนกันเสียง วัสดุกันเสียงสำหรับงานสถาปัตยกรรม รวมทั้งระบบประตูอัตโนมัติและวัสดุสำหรับงานโรงพยาบาลและสาธารณสุข และให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร
 
PANEL เสนอราคาขาย IPO ที่ 3.68 บาท/หุ้น จำนวนไม่เกิน 50,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 26.32% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่างๆ (หากกำหนดไว้และหากมี)

 สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้

1.เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่
2.ชำระคืนเงินกู้ยืม
3.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท 

ทางด้านผลการดำเนินงานในปี 2563-2565 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 87.98 ล้านบาท 70.08 ล้านบาท และ 110.71 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 16.87 ล้านบาท 10.96 ล้านบาท และ 15.94 ล้านบาท ตามลำดับ
 
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 90.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 10.41 ล้านบาท

นางจูเลีย เพ็ชญไพศิษฎ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PANEL เปิดเผยว่า PANEL เปิดซื้อขายวันแรก ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จากจุดเด่นของ PANEL คือ การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผนังกันเสียงเคลื่อนที่ ระบบประตูห้องผ่าตัดอัตโนมัติ และระบบทางเข้าออกอัจฉริยะ มาตลอดระยะเวลากว่า 34 ปี 

รวมทั้งเป็นตัวแทนนำเข้าพร้อมจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าใช้งานในสถานพยาบาลแบรนด์ MANUSA จากประเทศสเปน เช่น ประตูอัตโนมัติสุญญากาศที่ใช้สำหรับประตูห้องผ่าตัด ประตูห้องเอกซ์เรย์ มามากกว่า 24 ปี อีกทั้งยังให้บริการอย่างครบวงจรเพื่อเป็น One Stop Service ในการออกแบบ การจัดหา การติดตั้ง และการบริการหลังการขาย

นอกจากนี้ ทางบริษัทมองว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโรงแรม กำลังเติบโตสูง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากกว่า 23 ล้านคน มีการก่อสร้างโรงแรมและโรงพยาบาลใหม่จำนวนมาก จึงเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของทั้ง 2 อุตสาหกรรม

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปลงทุนสร้างโรงงานใหม่และจัดซื้อเครื่องจักร 140 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพการผลิตกว่า 2.5 เท่าตัว รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล และโรงแรมพร้อมชำระคืนเงินกู้ที่นำมาซื้อที่ดิน เพื่อสร้างโรงงาน 30 ล้านบาท