ก.ล.ต. ออกเกณฑ์รองรับ Thailand ESG Fund จ่อแถลงข่าวเปิดตัว 8 ธ.ค.นี้
ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดตั้งและจัดการ Thailand ESG Fund มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ธ.ค.66 ล่าสุดได้รับคำขออนุมัติจัดตั้งชุดแรก 22 กองทุน จาก 16 บลจ. เตรียมแถลงข่าวเปิดตัวและเสนอขาย 8 ธ.ค.นี้ คาดมีเม็ดเงิน Long Term Fund ใหม่ ราว 10,000-15,000 ล้านบาท
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ออกประกาศเพื่อรองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน รวม 11 ฉบับ โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2566 ซึ่งมีผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถจัดตั้งกองทุนรวม Thai ESG ได้ทันที
โดยในเบื้องต้น ก.ล.ต. ได้รับคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวม Thai ESG ชุดแรก จำนวน 22 กองทุน จาก บลจ. 16 แห่ง โดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และสมาชิก ประสงค์จะเสนอขายพร้อมกัน ในวันแถลงข่าวเปิดตัวกองทุนรวม Thai ESG อย่างเป็นทางการที่ กรมสรรพากร, ก.ล.ต. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) AIMC และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะร่วมกันจัดขึ้น ในวันที่ 8 ธ.ค.2566
ทั้งนี้ กองทุนรวม Thai ESG เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนที่มีความหลากหลายที่ผู้ออกทรัพย์สินนั้นเป็นภาครัฐหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวได้ตั้งแต่ปีภาษี 2566
ก.ล.ต. สนับสนุนให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของแต่ละกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน โดยกองทุนรวม Thai ESG จะต้องเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนของกองทุนรวมตามหลักเกณฑ์กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) ด้วย โดยเมื่อกองทุนรวม Thai ESG ได้รับการจดทะเบียนเป็นกองทรัพย์สินแล้ว ผู้ลงทุนจะสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ ก.ล.ต.https://sustainablefinance.sec.or.th/Fund
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ประเมินว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อตลาด คาดเม็ดเงิน Long Term Fund ใหม่ จากกองทุน TESG ราว 10,000-15,000 ล้านบาท จะทยอยเข้าหนุนตลาด
โดยมองหุ้นน่าสนใจ คือ
1) หุ้นที่อยู่ในธีมได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยปลายทาง หุ้นที่เป็นกลุ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะถัดไป (อิงภายใน+จีน)
2) หุ้นที่ปรับฐานลึกกว่าภาพรวมดัชนี SETESG
3) หุ้นถูก Short Sales vs ยอดสูงล่าสุด (30 ส.ค.) ในสัดส่วนสูง
ทั้งนี้ เน้น AOT, CPALL, PTTGC, SCGP, IVL, GPSC, BGRIM, SAWAD, CENTEL


