posttoday

9 หุ้นโหนกระแส "กองทุน TESG - COP28" เม็ดเงินไหลเข้าฉ่ำ

01 ธันวาคม 2566

โหนกระแส "กองทุน TESG" เม็ดเงินส่อไหลเข้า 10,000-15,000 ล้านบาท บวกแรงหนุนประชุม COP28 โบรกเปิดโผ 9 หุ้นรับอานิสงส์เม็ดเงินเข้ากว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมคัด 3 หุ้นพื้นฐานแกร่ง สตอรี่ชัด

     นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า วันนี้(1 ธ.ค.2566) 24 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)จะเริ่มจำหน่าย "กองทุน TESG" ประเมินเม็ดเงินไหลเข้าปี 2566นี้ราว 10,000 - 15,000 ล้านบาท หนุนหุ้น SETESG 

     โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินหุ้นน่าสนใจ ดังนี้คือ หุ้น CPALL คาดเม็ดเงินเข้า 453-680 ล้านบาท , AOT คาดเม็ดเงินเข้า 520-779 ล้านบาท , BBL คาดเม็ดเงินเข้า 266-399 ล้านบาท , GPSC คาดเม็ดเงินเข้า 110-166 ล้านบาท , 

     หุ้น PTTGC คาดเม็ดเงินเข้า 150-225 ล้านบาท , IVL คาดเม็ดเงินเข้า 123-184 ล้านบาท , SCGP คาดเม็ดเงินเข้า 143-214 ล้านบาท , SAWAD คาดเม็ดเงินเข้า 56-84 ล้านบาท และ CRC คาดเม็ดเงินเข้า 210-316 ล้านบาท

     นอกจากนี้ ยังมีประเด็นหนุนหุ้น ESG จากการประชุม COP28 เริ่มวันนี้ - 12 ธ.ค.66 จะเป็นการหารือระหว่างผู้นำของประเทศทั่วโลกเพื่อเป้าหมายในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน โดยระยะสั้นช่วง 1-2 ธ.ค.66 หัวข้อประชุมคือ World Climate Action Summit KCS ประเมินจะเป็นตัวเร่งให้ตลาดให้ความสนใจกับการลงทุนกับกระแส ESG มากขึ้น 

     โดยแนะนำลงทุนในหุ้นที่เป็นสมาชิกของดัชนี TESG และมีแนวโน้มที่จะได้รับเม็ดเงินจากกองทุน TESG สูง ได้แก่ AOT, CPALL, GULF, SCGP, GPSC รวมถึงกลุ่มพร้อมเติบโตไปกับการผลักดันพลังงานสะอาด EV อาทิ KCE

     สำหรับหุ้นเข้าธีม TESG Plays แนะนำหุ้น AOT ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 85.25 บาท แนวรับ 59 / 58.5 บาท แนวต้าน 60.5 / 61.75 บาท Stop Loss หากหลุดต่ำกว่า 57.5 บาท ฝ่ายวิเคราะห์ฯคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67(ต.ค.-ธ.ค.66) ฟื้น y-y และ q-q ต่อเนื่องตามแนวโน้มการฟื้นของปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน มาตรการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวของรัฐบาล (ฟรีวีซ่าจีนและคาซัคสถาน 5 เดือน) และเป็นช่วง High season ของการเดินทางท่องเที่ยว เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 26,728 ล้านบาท เติบโต 204% y-y ภายใต้สมมติฐานผู้โดยสารและเที่ยวบินกลับไปเทียบเท่า pre-COVID

     ซื้อขายอยู่บน PER24F ปัจจุบันเหลือเพียง 31-32 เท่า ถูกสุดในรอบหลายปี และค่าเฉลี่ยระดับ 40 +/- เท่า โซนปัจจุบัน 60-58.5 บาท จึงเป็นจุดน่าลงทุนระยะยาว

     ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดรอบนี้กว่า -15% มองสะท้อนผลกระทบทางพื้นฐานกรณีเลวร้ายจากปัจจัยลบที่เข้ามาแล้ว (ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 4/66 สูงกว่าคาด, นักท่องเที่ยวจีนพลาดเป้า และรัฐฯศึกษายกเลิก Duty Free ขาเข้า) ที่ฝ่ายฯศึกษากรณีเลวร้ายเทียบปัจจุบันที่เชื่อว่า Downside ต่อกำไรที่เกิดขึ้นจริงจะต่ำกว่านั้นมาก โดยเฉพาะหากมีภาพเศรษฐกิจจีนเชิงบวกทยอยเข้ามาหนุน ผสานคาดเม็ดเงิน TESG เข้าหนุน 520-779 ล้านบาท

     หุ้น CPALL ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 76 บาท แนวรับ 51.25 / 50.5 บาท แนวต้าน 53.25 / 54.5 บาท Stop Loss หากหลุดต่ำกว่า 50 บาท โมเมนตั้มกำไรปกติในไตรมาส 4/66 ฝ่ายฯคาดจะโตก้าวกระโดด y-y จากต้นทุนผ่อนคลายลง ได้แก่ ค่าไฟต่อหน่วยลง (-15%y-y), ร้านสะดวกซื้อจะไม่มีบันทึกรายการปรับปรุงค่าใช้จ่ายพนักงานมูลค่า สูง 1 พันล้านบาท เหมือนไตรมาส 4/65 แล้ว ส่วน q-q คาดกำไรโตต่อตามอานิสงส์ High season ธุรกิจและท่องเที่ยว โดยทิศทาง SSSG ต.ค.ยังบวก +2-4% ใกล้เคียงไตรมาส 3/66 ดังนั้นฝ่ายยังคงคาดกำไรปกติทั้งปี66 ที่ 1.71 หมื่นล้านบาท ปรับขึ้น +29% เด่นสุดในกลุ่มค้าปลีกและคาดปี 67 กำไรโตอีก 25%y-y

     Valuation ซื้อขายอยู่บน PER24 ราว 22.4 เท่าอยู่ในโซนลงทุน และราคาหุ้นปรับตัวแรงจนอยู่ในโซนลงทุน ผสาน วันนี้มีจิตวิทยาบวกราคาน้ำมันดิ่ง หนุนกำลังซื้อการจับจ่าย และเป็นหุ้นที่เม็ดเงินกองทุน TESG เข้าเป็นลำดับต้นๆของตลาด ประเมิน 456-680 ล้านบาท

     หุ้น GPSC ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 65 บาท แนวรับ 45.5 / 44 บาท แนวต้าน 46.75 / 48 บาท Stop Loss หากหลุดต่ำกว่า 42 บาท คาดกำไรปกติในไตรมาส 4/66 ราว 525 ล้านบาท จากขาดทุน -974 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 , -70% q-q ฟื้น y-y เพราะ ไม่มีปิดซ่อมนอกแผนของ GE5 ราว 30 วัน เหมือนไตรมาส 4/65, กำไรขายไฟ IU ฟื้นจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และปริมาณขายไฟฟ้าเติบโตจากลูกค้าไม่มีปิดซ่อมใหญ่ ส่วนลดลง q-q เพราะ กำไรขายไฟ IU ที่ลดลง จากค่าไฟฟ้า (ft) ที่ลดลง และไม่มีเงินคืนฯ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรฯลด หลังโรงไซยะบุรีออกจาก high season

     Valuation ซื้อขายอยู่บน PER24F 250เท่า ยังในโซนลงทุน โดยมี Upside ค่าไฟรอบ ม.ค. - เม.ย.67 ที่มีโอกาสปรับขึ้นสูงกว่า 3.99 บาทรอบ ก.ย. - ธ.ค.66 ผสาน จิตวิทยาบวกต้นทุนราคาน้ำมันวานนี้ดิ่งลงเฉลี่ย -2.5% และเป็นหุ้นที่เม็ดเงินกองทุน TESG เข้าเป็นลำดับต้นๆของตลาด ประเมิน 110-166 ล้านบาท