"BGRIM"เด้งกลับหลังร่วงแรง กูรูชี้ซื้อ“Ortanova”อิตาลีดี เน้นเล่นรอบสั้น

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "BGRIM" วันนี้(24 ต.ค. 2566) ณ เวลา 11.01 น. อยู่ที่ 23.40 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท คิดเป็น +4.46% มูลค่าการซื้อขาย 211.65 ล้านบาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 23.60 บาท และลดลงต่ำสุด 22.40 บาท

     นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 บริษัท RES Company Sicilia S.r.l. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บี.กริม เพาเวอร์ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท LT06 S.r.l. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของสาธารณรัฐอิตาลี จากบริษัท LT Service S.r.l. ซี่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,000 ยูโร

     LT06 S.r.l. เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสาธารณรัฐอิตาลี และมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินและตั้งบนระบบหมุนตามดวงอาทิตย์(tracking system) ที่อยู่ระหว่างพัฒนาชื่อ “Ortanova” มีกำลังการผลิต 80.9 เมกะวัตต์(MWp) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐอิตาลีซึ่งเมื่อรวมโครงการดังกล่าวแล้ว 

     ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์มีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนรวมขนาด 250-300 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างพัฒนาในสาธารณรัฐอิตาลี โดยยังคงมุ่งมั่นในการหาโอกาสพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคยุโรปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ GreenLeap-Global and Green ของ บี.กริม เพาเวอร์

     ทั้งนี้รายการดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันและขนาดของรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์นี้ไม่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายต้องเปิดเผยสารสนเทศ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่เป็นกรณีที่บริษัทจดทะเบียนได้มาซึ่งเงินลงทุนในบริษัทอื่น ซึ่งเป็นผลให้บริษัทอื่นนั้นมีสภาพเป็นบริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียน

ข่าวดี แต่รอไปก่อน

     นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา BGRIM แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่าบริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้น 100% ของบริษัท LT06 S.r.l. ในอิตาลีโดยใช้จำนวนเงินรวม 10,000 ยูโร (ราว 380,000-390,000 บาท) ส่งผลให้บริษัทได้รับสิทธิในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Ortanova ขนาด 80.9MW

     โครงการ Ortanova เป็นโครงการแสงอาทิตย์ซึ่งติดตั้งระบบ Tracking System ทั้งนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนราว 3,000 ล้านบาท (คิดเป็นเงินลงทุนราว 37 ล้านบาท/MW) และมีสัดส่วน D/E อยู่ที่ 70% และ 30% ตามลำดับ โครงการดังกล่าวจะมีสัญญารับซื้อไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 10 ปี (สามารถเจรจาเพื่อขายไฟฟ้าเข้าตลาดเสรีได้หลังหมดสัญญา) และได้รับค่าไฟฟ้าในอัตรา 80 ยูโร/MWh (ราว 3 บาท/หน่วย) มีกำหนด COD ในช่วงไตรมาส 2/2570 เบื้องต้นคาดโครงการดังกล่าวจะสร้างกำไรให้กับ BGRIM ได้ราว 80-100 ล้านบาท/ปี (คิดเป็นสัดส่วนราว 3-4% ของกำไรปี 2570 ทำให้ไม่มีนัยสำคัญต่อประมาณการ)

     ฝ่ายวิเคราะห์ฯมีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าวเนื่องจาก 1) สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ต้องการลดสัดส่วนการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลลง และ 2) เป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจออกจากกลุ่มประเทศเอเชีย (กลุ่มประเทศยุโรปมีการสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนมากกว่ากลุ่มประเทศเอเชีย)
     เบื้องต้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 46 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตามในระยะสั้น-กลาง คาดการฟื้นตัวของราคาหุ้นยังมีโอกาสถูกกดดันจาก Bond Yield ระยะ 10 ปี ของไทยและสหรัฐฯที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงและความเสี่ยงเชิงนโยบายของอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าในไทย รวมถึงสถานการณ์ระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลที่ยังมีความผันผวน (ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน)      ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์ หากยังไม่มีสถานะ แนะนำชะลอการลงทุน และอาจพิจารณาเข้าลงทุนหลังเห็นสัญญาณการปรับตัวลงของ Bond Yield หรือหลังสถานการณ์ระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลเริ่มมีเสถียรภาพ

เสี่ยงเล่นสั้น

     ฝ่ายกลยุทธ์ บล.ไอร่า(ประเทศไทย) ระบุว่า BGRIM ระดับราคาได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่องตั้งแต่ 37.50 บาท ลงมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มี Rebound เกิดขึ้นได้เลยจนทำให้เข้าสู่ภาวะ Oversold อย่างรุนแรงในระดับ RSI 14.78% ทำให้พร้อมจะมี Rebound ก่อนปรับลดลงในระลอกต่อไป

     กลยุทธ์เสี่ยงเล่นสั้นๆ มองแนวรับ 21.90 / 21.50 บาท แนวต้าน 22.80 / 24.20 บาท Stop Loss หากหลุด 21.30 บาท

เป้า 25.25 บาท

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี แนะนำซื้อเก็งกำไร BGRIM ราคาเป้าหมาย 25.25 บาท Sentiment บวกจากราคา น้ำมันดิบและ US bond yield ที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่ราคาร่วงแรงส่งผลให้ Indicator ทางด้านเทคนิค (RSI) เข้าสู่ภาวะ Oversold