ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 14.81 จุด บอนด์ยีลด์สหรัฐนิวไฮ-สงครามอิสราเอลกดดัน
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 14.81 จุด โบรกฯ ชี้รับแรงกดดันจากการเร่งตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐทำนิวไฮในรอบ 17 ปี และความไม่สงบของสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 1,410-1,430 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (19 ต.ค.) ปิดตลาดที่ 1,423.04 จุด ปรับลดลง 14.81 จุด หรือลดลง 1.03% มูลค่าการซื้อขาย 36,492.93 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,428.75 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,419.39 จุด สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 642.49 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิ 115.89 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,896.73 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,655.10 ล้านบาท
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง ภาพรวมรับแรงกดดันจากการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี และ 10 ปี ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 17 ปี หลังจากสหรัฐรายงานภาคอสังหาริมทรัพย์แข็งแกร่งกว่าตลาดคาดการณ์ไว้
ประกอบกับความไม่สงบของสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังเป็นอีกปัจจัยกดดัน หลังเกิดการเสียชีวิตจำนวนมากในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ณ ดินแดนฉนวนกาซา
โดยปัจจัยที่จะต้องติดตามคืนนี้ ได้แก่ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.1 แสนราย และ 3.9 ล้านหลังคาเรือน ตามลำดับ
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,410-1,430 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,919.60 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,416.65 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,293.33 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,104.04 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,005.29 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 0.75 บาท