14 หุ้นน่าซบ สตอรี่ชัด สะสมช่วงสั้น-กลาง
โบรกสแกน 14 หุ้นไทยน่าสะสม รอผลประชุมธนาคารกลางทั่วโลก เน้นหุ้นเด่น สตอรี่ชัด โหนกระแสโลกกระตุ้นเศรษฐกิจหนุน
ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า ช่วงนี้ถึงสิ้นเดือน เป็นช่วงของการประชุมธนาคารกลางทั่วโลก (ประชุม Fed วันที่ 20 ก.ย.66 , ประชุม กนง. วันที่ 27 ก.ย.66 ทำให้อาจเห็นแรงขายตราสารหนี้ทั่วโลกออกมาบ้าง
ส่งผลให้ Bond Yield มีการขยับขึ้น อาทิ Bond Yield 10 ปี สหรัฐเพิ่มขึ้น 19 bps. (MTD) จาก 4.10% เป็น 4.29% เช่นเดียวกับ Bond Yield 10 ปี ของไทยเพิ่มขึ้น 20 bps. (MTD) จาก 2.77% เป็น 2.97% รวมถึง Bond Yield 1 ปี ของไทยที่เพิ่มขึ้นมา ล่าสุดอยู่ที่ 2.32% สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัจจัยดังกล่าว อาจจูงใจให้นักลงทุนหันไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น และตามกลไกจะกดดันให้ Market Earning Yield Gap (MEYG) ของตลาดหุ้นไทยแคบลง หรือ ตลาดหุ้นไทยจะถูกซื้อขายบน P/E ที่ต่ำลงได้ซึ่งถ้า Bond Yield ในระยะถัดไป ยังเร่งตัวสูงขึ้นกว่านี้มีโอกาสในการกดดันดัชนีเป้าหมายให้ลดลงได้ โดย Bond Yield 1 ปี ที่สูงกว่าดอกเบี้ย นโยบาย 25 bps. กดดันเป้าหมาย SET Index ให้ลดลงราว 64 จุดทำให้นักลงทุนต้องติดตามตัวเลข Bond Yield อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้
อย่างไรก็ตามในระยะสั้น ยังมีปัจจัยแวดล้อมรอบด้าน ที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยดังนี้
1. การกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อเนื่อง และล่าสุด PBOC ลด RRR ลงครั้งที่ 2ของปี อีก 0.25% สู่ 7.4% ซึ่งจีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย มีสัดส่วนการค้าใน 7 เดือนแรกปี66 อยู่ที่ 18% มากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเด็นดังกล่าวถือว่าดีต่อหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในจีน อย่าง SCGP, PTTGC, IVL
2. ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 94 เหรียญ สูงสุดรอบ 10 เดือนและ บวกแรง 25.6%QTD ขณะที่หุ้นพลังงานไทยหลายบริษัทยัง Laggard อยู่มาก แนะนำ PTTEP, TOP, SPRC
3. การเดินหน้าของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย (CCI) เดือน ส.ค. ออกมา 56.9 สูงสุดในรอบ 14 เดือน แนะนำ CPALL, CRC, CPAXT, BEM, ADVANC, TRUE, AOT, ERW
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าหุ้นเด่นทั้ง 3 ธีมมีโอกาส Outperform ตลาดได้ดีในช่วงนี้


