ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 12.83 จุด รับแรงขายหุ้น TOP-กลุ่มโรงไฟฟ้า
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 12.83 จุด โบรกฯ ชี้รับแรงกดดันจากการปรับลงของหุ้น TOP หลังมีข่าวเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลขณะถ่ายน้ำมันดิบที่ทุ่นผูกเรือกกลางทะเลหมายเลข 2 และกลุ่มโรงไฟฟ้า กังวลแผนลดค่าไฟของรัฐบาล ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 1,537-1,557 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (4 ก.ย.) ปิดตลาดที่ 1,548.68 จุด ปรับลดลง 12.83 จุด หรือปรับลดลง 0.82% มูลค่าการซื้อขาย 50,623.64 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,565.74 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,546.84 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 2,053.76 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิ 252.82 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 431.94 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,738.52 ล้านบาท
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย อาทิ การปรับลงของหุ้น TOP หลังมีข่าวออกมาว่าเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลขณะถ่ายน้ำมันดิบที่ทุ่นผูกเรือกกลางทะเลหมายเลข 2 อย่างไรก็ตาม ไม่กระทบต่อผลดำเนินงานอย่างมีนัยยสำคัญ
ถัดมาเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มโรงไฟฟ้า คาดว่านักลงทุนกังวลกับนโยบายของรัฐบาลที่มีแผนจะลดค่าไฟ ส่วนปัจจัยกดดันอื่นๆ มาจากการที่ตลาดรับรู้ (Price In) ประเด็นต่างๆ ไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายดอกเบี้ยของสหรัฐ และการได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
โดยคืนนี้ยังไม่มีปัจจัยที่ต้องติดตามที่สำคัญ นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทยในวันพรุ่งนี้่ (5 ก.ย.) ช่วงเช้า
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,537-1,557 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
TOP มูลค่าการซื้อขาย 3,564.60 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท ลดลง 2.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,517.12 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง 0.15 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,889.33 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,759.13 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,482.70 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท ลดลง 0.75 บาท