posttoday

เอาให้ชัด! นโยบาย Free Visa ดันหุ้นตัวไหนพีคสุด ?

29 สิงหาคม 2566

ผ่านโยบาย Free Visa แผนดันนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เที่ยวไทย หนุนธุรกิจในช่วงระยะสั้น-กลาง-ยาว แค่ไหน? ฟาก 4 โบรกเปิดโผหุ้นโหนกระแสต่างชาติไหลเข้าไทย

AOT นำทีมหุ้นรับอานิสงส์ฟรีวีซ่าบวกสดใส 
     ราคาหุ้น AOT เช้านี้(29 ส.ค.66) ณ 11.15 น. อยู่ที่ 73.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท คิดเป็น +1.74%
     ราคาหุ้น AAV อยู่ที่ 2.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท คิดเป็น +2.10%
     ราคาหุ้น BA อยู่ที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +2.96%
     ราคาหุ้น ERW อยู่ที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น +4.72%
     ราคาหุ้น CENTEL อยู่ที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท คิดเป็น +2.16%
     ราคาหุ้น CPAXT อยู่ที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น +0.70%
     ราคาหุ้น M อยู่ที่ 49.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท คิดเป็น +2.60%
     ราคาหุ้น MINT อยู่ที่ 35 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
     ราคาหุ้น CPN อยู่ที่ 69.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
     ราคาหุ้น SPA อยู่ที่ 12.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
     ราคาหุ้น EKH อยู่ที่ 8.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

     นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กระแสนโยบายการผลักดันภาคท่องเที่ยวต่อเนื่อง ระยะสั้นจะพยายามจะเกิดภาพเร่งตัวทันช่วงฤดูกาลปลายปี หลังนายกฯร่วมประชุม AOT สำนักการบินพลเรือน และ 8 ผู้ประกอบการสายการบิน เพื่อหาแนวทางร่วมกันผลักดัน อาทิ การเพิ่มเที่ยวบินระยะสั้น 20% ช่วงฤดูกาล สายการบินเสนอรัฐฯออกมาตรการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน หลังกลับมาจัดเก็บตั้งแต่ 1 ก.ค. 23 

     นอกจากนี้ การเพิ่มโอกาสผลักดันนักท่องเที่ยวในตลาดหลัก อาทิ จีน อินเดีย (17.8% ของนักท่องเที่ยว 7M23 และ 21.6% ของนักท่องเที่ยว ก.ค.23 vs 32.6% ของนักท่องเที่ยวก่อน COVID ปี 2019) ผสานการขอให้เร่งเจรจาสิทธิการบิน ไทย-อินเดีย ส่วนระยะกลาง-ยาวการเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้มีความเหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล มองบวกต่อ AOT, AAV, BA, ERW, CENTEL, CPAXT

ยอดเดินทางออกนอกประเทศวูบ

     ทั้งนี้ยอดผู้ใช้บริการ 1-26 ส.ค.66 เดินทางออกนอกประเทศผ่านสนามบิน AOT อยู่ที่ 71.3% ของช่วง Pre COVID ลดลงจาก ก.ค.23 ที่มีสัดส่วน 75.2% แต่เทียบกับ 7M23 อยู่ที่ 66.6% ยังเป็นภาพเร่งขึ้น โดยระดับดังกล่าวบ่งชี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ส.ค.23 น่าจะอยู่ระดับราว 2.47 +/- ล้านคน ระดับดังกล่าวจะลดลงเล็กน้อย m-m ซึ่งเป็นระดับที่ทำได้ค่อนข้างดีในช่วงที่การเมืองภายในเป็นรอยต่อ และเศรษฐกิจจีนที่มีปัญหาโตแผ่ว

     แต่ภายใต้นโยบายรัฐบาลใหม่ที่เน้นภาคท่องเที่ยวเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจระยะสั้นดังกล่าวข้างต้น เชื่อว่านักท่องเที่ยวค่อยๆฟื้นตัวขึ้นหลังจากนี้ อิงจำนวนนักท่องเที่ยว 8M23 ที่ 18 +/- ล้านคน ยังมองทั้งปี 2023 นักท่องเที่ยวจะอยู่ระดับ 28-30 ล้านคน ส่วนการก้าวข้ามระดับ Pre COVID ที่ 39.4 ล้านคนเชื่อว่ามีโอกาสใช้เวลาน้อยลงกว่าที่ตลาดประเมินไว้เดิม มองบวกต่อหุ้นท่องเที่ยว การบิน อาทิ AOT, ERW, CENTEL, CPAXT

 

ERW-AOT-CPN เด่น

     ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า ภายใต้กระแสการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว ที่ถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของ GDP ไทยและสามารถทำได้เร็วกว่านโยบายอื่น ผ่านการยกเว้น VISA ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย อาทิ จีน (VISA สถานกงศุล 200 หยวนต่อครั้ง, VISA หน้าด่าน หรือ VOA 500 หยวนต่อครั้ง) และอินเดีย ในช่วง High Season รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบิน และแผนในระยะยาว อย่างการพัฒนาสนามบิน และการให้ AOT เข้าบริหารสนามบินในต่างจังหวัดเพิ่มเติม

     ประเด็นข้างต้น ฝ่ายวิจัยมองกรณีที่เกิดขึ้น ช่วยจูงใจนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไทย (ต.ค. เป็นช่วง Golden week ของจีน) โดยประเมินผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ เรียงตามสัดส่วนรายได้ในไทย ดังนี้ AOT ในฐานะประตูสู่ประเทศไทย >ERW สัดส่วนราว 90% มาจากโรงแรมไทย > CENTEL สัดส่วน 82% ของรายได้โรงแรมงวด 1H66 อยู่ในไทย (รายได้ร้านอาหาร : โรงแรม ที่ 58% : 42%) > MINT สัดส่วนรายได้ราว 50% มาจากใน EU สำหรับทิศทางกำไรปกติ (ไม่รวมรายการพิเศษ) ของหุ้นท่องเที่ยว (AOT, CENTEL และ ERW) ที่มีโครงสร้างรายได้ในไทยเป็นหลัก ไต่ระดับ QoQ (+ YoY) ตั้งแต่ 3Q66 –1Q67

     หลังผ่าน Low Season ของท่องเที่ยวไทยในช่วง 2Q66 ผสานกับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวจากภาครัฐ คาดการณ์หนุนค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ยืนในระดับสูงต่อเนื่อง หลังงวด 2Q66 ADR ของโรงแรมไทย ทั้ง CENTEL, ERW และ MINT ล้วนสูงเกินระดับ 2Q62 

     นอกจากนี้แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นช่วง 4Q66 คาดช่วยเพิ่มปริมาณ Traffic ในศูนย์การค้า และเป็นแรงส่งทางอ้อมต่อกำลังซื้อในประเทศ บวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อย่าง CPN และกลุ่มร้านอาหารที่อยู่ในศูนย์การค้า เช่น CENTEL,MINT และ M

     กลยุทธ์การลงทุนในธีมกระตุ้นภาคท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ เน้นหุ้นที่มีโครงสร้างรายได้ในไทยเป็นหลัก นำโดย ERW (Outperform : FV@B6) , AOT (Outperform :FV2567@B85) และ CENTEL(Neutral : FV@B54) ส่วน MINT (Outperform :FV@B38) แม้สัดส่วนรายได้ในไทยต่ำกว่ากลุ่มฯ แต่ชอบในการกระจายตัวของธุรกิจในหลายประเทศ ประกอบกับราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมายังปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่มฯ มองว่าสามารถ catch-up ตามหุ้นในกลุ่มฯ ได้ รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมอย่าง CPN (Outperform : FV@B79) และร้านอาหาร อาทิ M ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศราว 698 สาขา มีลุ้นรับประโยชน์จากนโยบาย Digital wallet ในปีหน้า

นักท่องเที่ยวจีนมาไทยรายเดือน

เอาให้ชัด! นโยบาย Free Visa ดันหุ้นตัวไหนพีคสุด ?
ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

 

AOT ยืนหนึ่ง

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสม 1 ม.ค.-20 ส.ค.66 อยู่ที่ 17 ล้านคน เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับตลอดปี 2565 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 11.5 ล้านคน

     แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุดคิดเป็น 60% ของคาดการณ์ปี 2566 ของเราและตลาดที่ 28-30 ล้านคน แต่แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวจะเติบโตเด่นช่วง 4Q66 หนุนจากการเข้า High Season ของไทย, การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินหลังเข้าสู่ตารางบินฤดูหนาว (Winter slot) โดยเฉพาะเที่ยวบินจากจีน, ช่วงวันหยุดยาวของจีน (Golden week) และคาดเห็นแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวจากรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้เป้าหมาย 28-30 ล้านคนแม้ท้าทาย แต่มีโอกาสเป็นไปได้

     หากพิจารณาเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ในช่วง 1 ม.ค.-20 ส.ค.66 อยู่ที่ 2.1 ล้านคน ฟื้นตัวเพียง 29% เทียบกับปี 2562 แต่หากพิจารณาเป็นรายเดือนจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดือน ส.ค.66 นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวได้ราว 40% เทียบ ส.ค.62 จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มและการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าหากเกิดขึ้น คาดหนุนให้การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนทำได้เร็วขึ้นอย่างมีนัย

     การส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวจากรัฐบาลชุดใหม่เป็น Sentiment บวกหนุนให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวไปต่อได้ หุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากประเด็นดังกล่าวได้แก่ หุ้นสนามบินและสายการบิน AOT (TP@84) AAV และ BA 

     ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงแรมที่มีสัดส่วนโรงแรมในประเทศสูง อย่าง ERW ([email protected]) และ CENTEL (TP@48) หรือ หุ้นขนาดเล็ก อย่าง SPA  ([email protected]) คาดได้รับ sentiment บวกจากปัจจัยดังกล่าวด้วยเช่นกัน 

     แต่เนื่องจากกลุ่มหุ้นส่วนใหญ่ Upside จำกัด ทำให้เราเลือก AOT เป็นตัวเลือกหลักในการเก็งประเด็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเด่น ทั้งจากผลประกอบการที่เติบโตดี และในแง่ของ Valuation หุ้นยังมี Upside ให้ปรับตัวขึ้นต่อได้

 

EKH ยิ้ม IVF สดใส

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส แนะนำซื้อ EKH ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 9.72 บาทโมเมนตัมกำไรปกติ 3Q23 คาดว่ายังคงเติบโตแข็งแกร่งทั้ง q-q และ y-y หนุนจาก High Season ของกลุ่มการแพทย์ซึ่งมีโรคระบาดมากขึ้น หนุนให้ Utilization Rate ปรับขึ้นเป็น 90% ในช่วง 3QTD จาก 78% ใน 2Q23 

     ทั้งนี้ฝ่ายคาดว่ากระแสนโยบาย Free Visa ให้นักท่องเที่ยวจีน หากเกิดขึ้นจะเป็นบวกต่อธุรกิจ IVF เนื่องจากลูกค้าจีนคิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายได้ Consensus คาดกำไรปกติปี 2023-24 +16% y-y และ +9% y-y ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER ราว 20 เท่าต่ำกว่ากลุ่มฯและค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 25-30 เท่า มองแนวรับ 7.90-7.80 / 7.60 บาท แนวต้าน 8.25 / 8.50 บาท

ข่าวล่าสุด

จีนทำสถิติ “เกินดุลการค้าทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญ” ส่งออกสู่ตลาดนอกสหรัฐฯ พุ่งแรง