posttoday

“ประเดช” โร่แจงที่มาซื้อหุ้น WEH ด้าน NUSA ยันคำตัดสินศาลฯ ไม่กระทบลงทุน WEH

02 สิงหาคม 2566

“ประเดช กิตติอิสรานนท์” หนึ่งในจำเลยคดีโกงหุ้น WEH เปิดที่มาซื้อหุ้น “วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ชี้คำตัดสินศาลอังกฤษไม่มีผลผูกพันกับศาลไทย พร้อมพิสูจน์ความจริงที่ศาลไทย ฟาก NUSA แจงคำตัดสินศาลฯ ไม่กระทบต่อการลงทุนหุ้น WEH

นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ถือหุ้นใหญอันดับ 2 สัดส่วน 7.15% ใน บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงในการเข้าไปลงทุนในหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) หลังจากเป็นหนึ่งในจำเลยที่ถูกศาลอังกฤษตัดสินให้เป็นผู้ร่วมจ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท ในข้อหาสมคบกันชักจูงใจด้วยข้อมูลลวงให้ขายหุ้น WEH 

นายประเดช ระบุว่า เมื่อประมาณเดือน มิ.ย.2560 นายณพ ณรงค์เดช และ นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ ได้พากันมาขอให้ช่วยซื้อหุ้น WEH จาก บริษัท โกลเด้น มิวสิท (GML) ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใน WEH เพราะนายณพ ต้องการนำเงินไปจ่ายค่าซื้อหุ้น WEH จาก นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ไม่เช่นนั้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จะไม่ปล่อยสินเชื่อเงินกู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 5 โครงการ (T5) ให้แก่ WEH รวมถึงโครงการพลังงานลมวะตะแบกก็จะไม่สามารถเบิกเงินกู้จาก SCB มาใช้ในการก่อสร้างต่อไปได้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากให้กับ WEH

ราคาหุ้น WEH ที่นายณพเสนอขายรวมเป็นเงินทั้งหมด 5,900 ล้านบาท ราคาหุ้นละ 410 บาท โดยมีข้อตกลงให้ชำระเงินจำนวนครึ่งหนึ่งในวันโอนหุ้น ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้ชำระเมื่อ WEH ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ได้ ตนเองและนักลงทุนอีก 32 คน จึงรวมเงินกันมาซื้อหุ้น WEH และจ่ายเงินตามที่ตกลงไว้ครบถ้วน

ทั้งนี้ การตัดสินใจซื้อหุ้น WEH ในตอนนั้นไม่เคยรู้มาก่อนว่า นายณพ ซื้อหุ้นมาในราคาเท่าไหร่ แต่มารู้ภายในภายหลังว่านายณพซื้อหุ้นจากนายนพพรมาในราคาหุ้นละประมาณ 370 บาทต่อหุ้น ดังนั้น หุ้น WEH ที่ตนเองและกลุ่มนักลงทุนซื้อมาจึงมีราคาที่สูงกว่าหุ้นที่นายณพได้ซื้อมาจากนายนพพร

นอกจากนี้ การซื้อหุ้นดังกล่าวตนเองมีความตั้งใจและเจตนาเพื่อเป็นการช่วยให้ WEH ไม่ได้รับความเสียหาย สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม T5 ต่อไปได้ จนเป็นที่มาของโรงไฟฟ้าพลังงานลม T5 ในปัจจุบัน อีกทั้งตนเองได้รับคำยืนยันจาก SCB ในขณะนั้นว่าหากซื้อหุ้นและชำระเงินค่าซื้อหุ้นให้แก่นายณพแล้ว SCB จะปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม T5 รวมถึงได้รับการยืนยันว่าหุ้น WEH ที่ซื้อจะไม่มีปัญหา เพราะการที่นายณพ ถูก นายนพพรฟ้องที่อนุญาโตตุลาการประเทศสิงคโปร์ เป็นเรื่องการฟ้องให้ชำระหนี้เงินค่าหุ้นไม่ใช่ฟ้องเรียกเอาหุ้น WEH คืน

สำหรับกรณีที่ศาลสูงแห่งประเทศอังกฤษและเวลล์ (ศาลอังกฤษ) ได้มีคำพิพากษาใดก็ตามไม่มีผลผูกพันกับศาลไทยที่จะต้องปฏิบัติตามศาลอังกฤษที่มีคำพิพากษาไว้ หากจะให้มีผลผูกพันตามกฎหมายไทย ต้องยื่นฟ้องกันใหม่ในประเทศไทยเท่านั้น 

ในส่วนของตนเองไม่ได้ไปต่อสู้คดีที่ศาลอังกฤษ และน่าจะมีฝ่ายใดให้การหรือเบิกความถึงข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จ ซึ่งพิจารณาดูตามคำพิพากษาของศาลอังกฤษแล้ว อาจเป็นการฟังความจากฝ่ายเดียว 

ฉะนั้นความจริงจะปรากฎเมื่อหากคู่ความฝ่ายใดในคดีที่ศาลอังกฤษได้มีการมายื่นฟ้องในศาลไทย ซึ่งหากมีการให้การเท็จ ใดๆบุคคลนั้นอาจจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ สำหรับตนเองพร้อมจะพิสูจน์ความจริงที่ศาลไทย

NUSA แจงไม่กระทบลงทุนหุ้น WEH 

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่าศาลอังกฤษได้มีคําตัดสินให้ นายนพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ให้แก่ นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ บริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จํากัด หรือ WEH นั้น บริษัทในฐานะผู้ถือหุ้นใน WEH ในสัดส่วน 7.12% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ WEH ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อคำตัดสินดังกล่าว 

เนื่องจากเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นฝ่ายหนึ่งกับผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายหนึ่งของ WEH โดยบริษัทได้รับการยืนยันจากผู้บริหารของ WEH ว่าข้อพิพาทดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตัวบริษัท WEH อีกทั้งหุ้นที่บริษัทเข้าซื้อจํานวน 7.12% ไม่ได้อยู่ในข้อพิพาทดังกล่าวแต่อย่างใด