SCC กำไร Q2/66 เหลือ 8.08 พันล้าน ปันผล 2.50 บ. ขึ้น XD 9 ส.ค.นี้

ราคาหุ้น "บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC" ปิดวันนี้(26 ก.ค. 2566) อยู่ที่ 318 บาท ลดลง 2 บาท คิดเป็น -0.63% มูลค่าการซื้อขาย 503.86 ล้านบาท โดยระหว่างวันราคาปรับขึ้นสูงสุด 319 บาท และลดลงต่ำสุด 316 บาท 

     บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC และบริษัทย่อย แจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 มีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 124,631ล้านบาท ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน ผลจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและธุรกิจแพคเกจจิ้ง มีรายได้จากการขายลดลง ขณะที่ธุรกิจเคมิคอลส์มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น EBITDA เท่ากับ 19,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาสก่อนเนื่องจากเป็นช่วงที่มีเงินปันผลรับ 

     ขณะที่ กำไรไตรมาส 2/66 เท่ากับ 8,082 ล้านบาท ลดลง 51% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics จากการรวมธุรกิจ SCGJWD Logistics ในไตรมาสก่อน ทั้งนี้กำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ1(Profit excluding extra items) อยู่ที่ 5,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น (ธุรกิจยานยนต์) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

     เอสซีจีมีรายได้จากการขาย ไตรมาส 2/66 ลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่ลดลงของทุกกลุ่มธุรกิจ สาเหตุหลักจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลง EBITDA ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสำหรับงวด ลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ (Profit excluding extra items) ลดลง 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ รวมทั้งการปรับรอบเงินปันผลของบริษัทที่เอสซีจีลงทุนในธุรกิจอื่น (ธุรกิจยานยนต์) ทำให้เงินปันผลรับในไตรมาส 2/65 สูงกว่าปกติ

ครึ่งแรกยังหนักหน่วง

     สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี66 มีรายได้จากการขาย เท่ากับ 253,379 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากยอดขายที่ลดลงของทุกกลุ่มธุรกิจจากสถานการณ์ตลาดที่อ่อนตัว นอกจากนี้ปริมาณขายและเงินปันผลที่ลดลงในธุรกิจเคมิคอลส์ทำให้ EBITDA ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 32,123 ล้านบาท กำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 24,608 ล้านบาท จากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ขณะที่กำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ(Profit excluding extra items) อยู่ที่ 9,786 ล้านบาท ลดลง 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

     ธุรกิจแพคเกจจิ้ง มีรายได้จากการขายในช่วงครึ่งปีแรกของปี66 เท่ากับ 65,945 ล้านบาท ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EBITDA เท่ากับ 9,155 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 2,705 ล้านบาท ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

     ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี66 เอสซีจีมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม เท่ากับ 4,688 ล้านบาท ลดลง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์ คิดเป็น 39% ของทั้งหมด หรือเท่ากับ 1,813 ล้านบาท ลดลง 1,184 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจากธุรกิจอื่น เท่ากับ 2,875 ล้ านบาท หรือคิดเป็น 61% ของทั้งหมด ลดลง 896 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

     เอสซีจีมีเงินปันผลรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี66 เท่ากับ 7,858 ล้านบาท ลดลง 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเอสซีจีมีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (เอสซีจีถือหุ้น 20 - 50%) เท่ากับ 6,127 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (เอสซีจีถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 1,731 ล้านบาท

     นอกจากนี้ เอสซีจียังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงโดยมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาส 2/66 เท่ากับ 95,576 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 94,100 ล้านบาท เอสซีจีมีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 107,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน โดยมีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อต้นทุนขาย เท่ากับ 71วัน เทียบกับ 68 วันในไตรมาสก่อน(ไตรมาส 1/66)

ปันผลครึ่งแรก 2.5 บาท

     อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี66 ในอัตรา 2.5 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล วันที่ 25 สิงหาคม 2566 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 9 สิงหาคม 2566 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 10 สิงหาคม 2566