จับตาเงินเฟ้อไทยชะลอช่วยพยุงหุ้นวันนี้แกว่งกรอบ 1,510-1,520 จุด
หุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบ 1,510-1,520 จุด จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทยคาดชะลอตัวช่วยพยุงตลาด แนะเก็งกำไร “PTTEP” กำไรมีโอกาสดีกว่าคาด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า บทสรุปของการโหวตเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯวานนี้เป็นไปตามคาด โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้ นายวันมูหะ มัดนอร์ มะทา ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรส่วนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
และ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นบทสรุปที่ค่อนข้างดีต่อตลาดทุน หนุนวานนี้ SET แกว่งขึ้นทดสอบต้านสำคัญ 1520 จุด โดยในช่วงถัดไปความเข้มข้นทางการเมืองจะร้อนแรงขึ้น เนื่องจากตลาดจะจับตาการโหวตนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประเด็นถัดไปที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด
ด้านตลาดน้ำมันดิบมีแรงเก็งกำไรตอบรับการขยายเวลาลดกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบีย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปอีก 1 เดือน รวมทั้งรัสเซียที่ประกาศจะลดการส่งออกน้ำมัน 5 แสนบาร์เรล อาจช่วยกระตุ้นการเก็งกำไรกลุ่มพลังงานต้นน้ำมากขึ้น
โดยตลาดคาด CPI จะทรงตัว +0.0%y-y ลดลงจาก +0.53%y-y และ Core CPI คาดที่ +1.4%y-y ชะลอจากเดือน พ.ค. ที่ +1.55% คาดจะเป็นแรงขับเคลื่อนเชิงบวกเพิ่มเติมต่อ SET
ขณะที่ฝั่งจีน แนะจับตา Caixin PMI ภาคบริการคาดชะลอตัวเล็กน้อยสู่ระดับ 56.2 จาก 57.2 ส่วนทางสหรัฐฯ จับตารายงานประชุม FED รอบที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยวันนี้คาดแกว่ง “Sideway” ในกรอบ 1,510-1,520 จุด หลังการเมืองไทยเริ่มมีทางออกมากขึ้นยังคงพยุง Sentiment โดยรวม ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ แนะติดตามเงินเฟ้อไทย คาดมีแนวโน้มชะลอต่อเนื่อง เป็นปัจจัยพยุงเพิ่มเติม
โดยกลยุทธ์วันนี้แนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรมีโอกาสดีกว่าคาดเดิม เลือก “PTTEP” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 165 บาท ฝ่ายคาดกำไร 2Q23 ที่ 1.91 หมื่นล้านบาท (-1%q-q , -7%y-y) ถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากประมาณการเดิม แรงหนุนจากปริมาณการขายที่ทำได้ดีขึ้นจากคาดเดิม
รวมถึงจะมีกำไรจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงของราคาน้ำมัน และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งบริษัทปรับเป้าหมายปริมาณขายทั้งปีเพิ่มขึ้นจาก 456 สู่ 460 KBOED ราคาน้ำมันดิบระยะสั้น คาดได้แรงหนุนจากซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย ลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคา