posttoday

SET แกว่งในกรอบ 1,540-1,560 จุด จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-ดอกเบี้ยเฟด

13 มิถุนายน 2566

SET แกว่งในกรอบ 1,540-1,560 จุด รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ผลประชุมเฟด และสถานการณ์ด้านการเมืองในประเทศ กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ OR และ KCE

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET แกว่งในกรอบ 1,540-1,560 จุด เนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐวันนี้ และต่อด้วยผลประชุมเฟดในคืนพรุ่งนี้ รวมถึงติดตามสถานการณ์ด้านการเมืองในประเทศ ทั้งนี้ในภาพรวม มีจุดติดตามอยู่ที่ 1,540 จุด หากไม่ต่ำกว่า คาดดัชนียังปรับขึ้นได้ต่อ โดยหากขึ้นทะลุผ่าน1,560 จุด จะเป็นสัญญาณบวก และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,570 จุด

ทั้งนี้ มอง SET จะผันผวนในกรอบ และมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน โดยมองการประชุมนโยบายการเงินของเฟด จะมีมติคงดอกเบี้ยตามตลาดคาด แต่ต้องจับตาหากเฟดส่งสัญญาณปรับชื้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. และเงินเฟ้อ พ.ค. ของสหรัฐออกมาสูงกว่าตลาดคาด จะเป็น sentiment ลบระยะสั้นต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยควบคู่ไปกับ ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนและสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทยที่ล่าช้า จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนต่อเนื่อง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ "Selective Buy" ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 จะยังเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP และหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก KCE ONEE 

2. หุ้นเชิงรับหากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ก.ค. และเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าตลาดคาดเลือก BDMS BEM 

3. นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ซึ่งต้องการเก็งกำไรระยะสั้น หากเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ก.ค. และเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าตลาดคาด เลือก DELTA PTTEP BCP 

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับหุ้นที่มีความเสี่ยงหรือปัจจัยลบกดดันราคาหุ้น ดังนี้

1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่

2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัย จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ(KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU CENTEL) และกลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH SIRI QH AP) 

และ 3) หุ้นที่เราแนะนำ Underperform หรือมีความเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม (AAV SAWAD MST NRF)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ OR ราคาน้ำมันที่ลดลงจะช่วยลดแรงกดดันจากการกำหนดเพดานราคา (โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล) ของรัฐบาลและค่าการตลาดของ OR โดยปี 2566 คาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 31%YoY จากค่าใช้จ่ายการตลาดลดลงและค่าการตลาดที่ดีขึ้น

KCE มองผลประกอบการคาดจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในครึ่งหลังปี 2566 จาก Pent up demand โดยเฉพาะจากลูกค้าฝั่งยุโรป ซึ่งคาดจะชดเชยการปรับลดราคาขายให้กับลูกค้าได้ และคาดจะดีต่อเนื่องไปถึงปี 2567 ที่มีการขยายกำลังผลิตครั้งใหญ่