BTS ส่งซิกปี 66/67 ผลงานเด่น รับจัดตั้งรัฐบาลใหม่-เปิดรถไฟฟ้า 2 สาย
BTS แย้มปี 66/67 ผลงานเด่น รับปัจจัยบวกจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เปิดรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง รวมทั้งปัญหาหนี้กับ กทม. มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนงบปี 65/66 มีกำไรสุทธิ 1,836 ล้านบาท ลดลง 52% หลังรายได้รับเหมาหด แต่จ่ายปันผล 0.16 บาท/หุ้น ขึ้น XD 7 ส.ค.นี้
นายรังสิน กฤตลักษณ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัทประเมินปี 2566/67 เป็นปีแห่งโอกาสสำหรับบริษัท ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง และแนวโน้มที่ดีขึ้นในการแก้ปัญหาหนี้คงค้างของ กทม.
โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเตรียมเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะสามารถรับรู้รายได้ค่าโดยสารจากทั้งสองโครงการตามอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี ที่ได้ลงนามไปแล้ว นอกจากนี้ NBM2 และ EBM2 (บริษัทย่อยของบีทีเอส กรุ๊ป) ยังมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเมื่อเปิดให้บริการรถไฟฟ้าทั้งสองสาย
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถบันทึกรายได้ O&M จำนวน 6,900 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า จำนวน 5,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน และรายได้จากงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย อีกราว 2,900 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจ MIX คาดการณ์รายได้ ในช่วง 6,000-6,500 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิที่มากกว่า 10% ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและจำนวนเที่ยวเดินทางจะมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้กับรายได้ของธุรกิจ MIX เนื่องจากอัตราการใช้สื่อ (occupancy rate) ของ VGI มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
สำหรับผลประกอบการในปี 2565/66 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,836 ล้านบาท ลดลง 52.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.6% ลดลงจาก 12.3% ในปี 2564/65
ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานที่เกิดขึ้นเป็นประจำก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (Recurring EBITDA) อยู่ที่ 7,669 ล้านบาท ลดลง 5.5% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงของธุรกิจ MIX และ MATCH
สำหรับ Recurring EBITDA ของธุรกิจ MIX ที่ลดลง สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งเป็นผลจากการขยายธุรกิจและการเข้าควบรวมบริษัทย่อยต่างๆ ของ VGI นอกจkกนี้ กkรบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการของธุรกิจ MATCH ปรับตัวลง
อย่างไรก็ตาม การลดลงถูกชดเชยบางส่วนด้วยการเพิ่มขึ้นของ Recurring EBITDA ของธุรกิจ MOVE ซึ่งได้แรงหนุนจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยรับที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF)
ด้านรายได้รวม ในปี 2565/66 อยู่ที่ 24,139 ล้านบาท ลดลง 22.6% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการให้บริการรับเหมาที่ลดลง 9,227 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ในช่วงสุดท้ายของงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง
อย่างไรก็ตาม การลดลงดังกล่าวถูกชดเชยด้วย (1) รายได้จากการบริการและการขายที่เพิ่มขึ้น 1,498 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ MIX และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ภายใต้ธุรกิจ MOVE และ (2) การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับ จำนวน 1,097 ล้านบาท จากปีก่อน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2566 มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 เม.ย.2565 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2566 และกำไรสะสม ในอัตรา 0.16 บาท/หุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 ส.ค.2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 ส.ค.2566 เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่บริษัทจ่ายไปแล้ว ในอัตรา 0.15 บาท/หุ้น ทำให้ทั้งปี 2565/66 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวม 0.31 บาท/หุ้น