ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 22.92 จุด DELTA ฉุดดัชนี 8.2 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (5 เม.ย.) ปิดตลาดที่ 1,571.13 จุด ปรับลดลง 22.92 จุด หรือปรับลดลง 1.44% มูลค่าการซื้อขาย 48,873.95 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,594.69 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,569.37 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,772.91 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิ 179.89 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,052.81 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อ 2,645.83 ล้านบาท

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง มองว่าเกิดจากนักลงทุนเริ่มกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตำแหน่งงานเปิดรับสมัครต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วง พ.ค.2566 ข้อมูลในอดีตชี้ว่าตำแหน่งเปิดรับสมัครงานมักเป็นดัชนีชี้นำอัตราการว่างงานรวมถึงการจ้างงานนอกภาคเกษตร

นอกจากนี้ การปรับลงของ DELTA เป็นอีกปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในภาพรวมด้วย Market Capitalization ที่ค่อนข้างสูง โดย DELTA เพียงตัวเดียวมีผลต่อดัชนีราว 8.2 จุด แม้วันนี้ไทยจะรายงานเงินเฟ้อต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นบวกกับตลาดหุ้นเท่าใดนัก 

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันที่ 7 เม.ย.2566 (พรุ่งนี้ปิดทำการ) อาจต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในคืนนี้ จากสถาบัน ADP เบื้องต้น Bloomberg ประเมินไว้ที่ 2.08 แสนตำแหน่ง หากยังลดลงมากกว่าคาดการณ์ไว้จะยิ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมตลาดหุ้นต่อโดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐในคืนนี้ หากเป็นเช่นนั้นอาจสร้างแรงกดดันมายัง SET INDEX ในวันศุกร์ต่อเนื่อง แต่หากตัวเลขการจ้างงานสูงภาคเอกชนในคืนนี้มากกว่าคาดอาจช่วยหนุนตลาดหุ้นได้แต่เชื่อว่าไม่มากเพราะสุดท้ายจะไปกังวลเงินเฟ้อ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันศุกร์ 1560-1580 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,088.33 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,222.52 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,939.23 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,597.49 ล้านบาท ปิดที่ 882.00 บาท ลดลง 82.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,390.52 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 0.25 บาท