ดัชนีหุ้นไทยร่วงเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค

ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยช่วงท้ายตลาดวันนี้ (14 มี.ค.) ปรับตัวลงแรงหนักสุด 54.41 จุด อยู่ ที่ 1,518.66 จุด ล่าสุด ณ เวลา 16.30 น. อยู่ที่ 1,525.71 จุด  ลดลง 47.36 จุด หรือ 3.01%

นายณัฐชาต เมฆมาสินผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยร่วงวันนี้เป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ร่วงเฉลี่ย 1-3%  จากความกังวลแบงก์ในสหรัฐที่ล้ม และในช่วง1- 2 ดัชนีหุ้นไทยลงมาเยอะ ทำให้อาจถึงจุดที่มีการบังคับขายหุ้น (ฟอร์ซเซล)ออกมา และมีการชอร์ตเซลด้วย 

"จากที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ในช่วงบ่ายวานนี้สามารถยืนในแดนบวกได้ ซึ่งเป็นสัญญาณรอบนี้ยังไม่เห็นความเสี่ยงในเชิงระบบ คาดว่าเหตุกรณ์แบงก์ในสหรัฐล้มจะไม่ลุกลาม จึงไม่น่ากังวล"  

สำหรับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.-14 มี.ค. ดัชนีหุ้นไทยร่วงถึง 5% ซึ่งถือว่าเป็นการขายที่มากเกินไปแล้ว  น่าจะมีโอกาสที่จะมีการรีบาวด์ทางเทคนิคได้  ซึ่งการที่ดัชนีลงมารอบนี้มาจากเซ็นทิเมนท์เชิงลบที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศ โดยหากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาไม่ได้สูงกว่าคาดการณ์ ทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมในรอบเดือนนี้ที่ 0.25% เป็นเซ็นทิเมนต์เชิงบวก

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงปิดตลาดวันนี้ปรับตัวดิ่งลง 49.18 จุด (-3.13%) ปิดที่ 1,523.89 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 103,833.09 ล้านบาท โดยการซื้อขายตลอดทั้งวัน ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1,572.36 จุด และแตะสูงสุดที่ 1,518.66 จุด หลังแรงเทขายต่างชาติมีต่อเนื่อง จากความกังวลต่อวิกฤติ Silicon Valley Bank (SVB)

ทั้งนี้หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงปรับตัวเพิ่มขึ้น 295 หลักทรัพย์ ลดลง 1,554 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 196 หลักทรัพย์

มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย

KBANK ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,897.31 ล้านบาท

SCB ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,101.55 ล้านบาท

CPALL ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,488.77 ล้านบาท

PTT ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,329.40 ล้านบาท

AOT ปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,959.92 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดิ่งลงหนักทะลุถึง 50 จุด โดยเป็นไปตาม Sentiment ตลาดหุ้นเอเชีย จากนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสุทธิหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ จากความกังวลกรณี SVB ในสหรัฐล้ม อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการเงินในเอเชีย และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย