posttoday

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล จาก WARRIX แนะ SMEs โตแบบยั่งยืนต้องจับ Global Trend

15 กุมภาพันธ์ 2566

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล จาก Warrix แชร์ประสบการณ์จริงของผู้ประกอบการ SMEs ที่เริ่มจากศูนย์สู่มหาชนว่าจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต้องจับ Global Trend ให้อยู่ เพื่อไปต่อ พร้อมเสนอภาครัฐทำ SME National Scoring ให้บริหารงบอย่างถูกจุดแก่ผู้ที่แข็งแรงและอยู่รอดจริง

ภายในงาน “อนาคตประเทศไทย : SME จะไปทางไหน?” ที่จัดโดยสื่อเครือเนชั่นนั้น นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. วอริกซ์ สปอร์ต (WARRIX) ได้ถ่ายทอดมุมมองต่อแนวทางที่จะพัฒนาศักยภาพของ SMEs ให้เติบโตอย่างยั่งยืนว่า 


ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวที่เรียนรู้จาการปฏิบัติจริง ซึ่งเติบโตจากศูนย์จนสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา นั่นคือหากกิจการ SMEs จะเติบโตอย่างยั่งยืนและไปต่อได้นั้นต้องจับกระแส Global Trend เช่นเดียวกับที่ WARRIX เริ่มต้นสร้างกิจการจากธุรกิจกีฬา ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ Global Trend 

 

โดยพบว่ามีผู้ประกอบการ SMEs หลายรายที่เหนื่อยหรือดำเนินธุรกิจได้ยากลำบากจนไปต่อไม่ได้ เพราะเป็นการสืบทอดกิจการจากคนรุ่นก่อนหรือรุ่นพ่อ ที่กิจการไม่ได้อยู่ในกระแส Global Trend จนกำไรน้อยลงทุกวัน ด้วยต้นทุนไม่สอดคล้องโมเดลธุรกิจที่เปลี่ยนไป 

 

"ผมโตจากช่องว่างทางการตลาด ที่มองว่ามีจุดต่างระหว่างแบรนด์ไทยกับแบรนด์นอก ตรงราคาต่างกัน คือแบรนด์นอกขายเกินพัน แต่แบรนด์ไทยขายต่ำกว่า 300 โดยเราสามารถเติบโตได้ด้วยการหาช่องว่าที่ทำอย่างไรให้ขายได้เกิน 300 ถึง 1,000 บาทให้ได้" 

 

นอกจากนี้ นายวิศัลย์มองว่าเพื่อจะช่วยเสริมศักยภาพให้ SMEs มีข้อมูลนำไปใช้เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น ทางภาครัฐควรมีส่วนในการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา รวมถึงบูรณาการเรื่องการใช้งบประมาณ เพื่อสร้างเสาเข็มต้นเล็ก ๆ อย่างแข็งแรงให้แก่ธุรกิจของไทย

 

"ขนาดบริษัทผมมีรายได้เป็นพันล้าน แต่จะใช้งบทำวิจัยสัก 1-2 ล้านบาทยังคิดหนักเลย แต่ก็ยังต้องทำ ถ้าภาครับช่วยทำวิจัยมีข้อมูลช่องว่างทางการตลาดให้ SMEs ก็จะช่วยได้มาก" 

 

รวมถึงมองว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัดเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตของ SMEs ทุกราย ไม่ต่างจากที่ WARRIX ก็เคยเจอมาก่อน โดยเฉพาะปัญหาที่ขาดกระแสเงินสด จนหมุนเงินไม่ทัน  แล้วต้องหันไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเป็นพิษต่อการทำธุรกิจของผู้ประกอบการทุกราย 

 

ดังนั้น จึงขอเสนอให้ภาครัฐริเริ่มในการทำ SME National Scoring เพื่อให้มีข้อมูลในการทำงบประมาณภาครัฐไปใช้สนับสนุนกับกลุ่มผู้ประกอบการที่แข็งแรงและอยู่รอด เช่น เสียภาษีอย่างถูกต้อง ผลประกอบการดี ฯลฯ ก็ควรได้คะแนนดี และได้ผลประโยชน์จากงบประมาณภาครัฐ 

 

ดังเช่นที่หาก  WARRIX ไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์หรือเป็นบริษัทมหาชน ก็คงไม่สามารถลงทุนสำหรับระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อที่จะมาสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจได้เลย ด้วยทุกวันนี้ธนาคารไม่สามารถปล่อยกู้สำหรับการพัฒนาซอฟท์แวร์ได้ เพราะขัดกับกฎเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากซอฟท์แวร์ไม่สามารถเป็นหลักประกันให้ยึดได้หากเป็นหนี้เสีย 

 

"ถ้าไม่ติดปีกให้ SMEs พัฒนาต่อยอดธุรกิจได้ ก็จะเกิดช่องว่างระหว่างกิจการขนาดเล็กและใหญ่อย่างที่เป็นอยู่ไปเรื่อย ๆ" 

 

ทั้งนี้ยังทิ้งท้ายอีกว่าช่องทางขายแบบออนไลน์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก แม้ปัจจุบัน หล้งโควิด 19 คลี่คลายแล้ว ผู้บริโภคเริ่มไปจับจ่ายในช่องทางเดิมมากขึ้นก็ตาม โดยเขาไม่เชื่อเรื่องการขยายร้านหรือสาขาจำนวนมาก แต่ยังเน้นลงทุนออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ เพราะคุ้มค่ามากกว่า เพียงแต่ต้องรู้จักใช้เครื่องมือบนโลกออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนไปทุกวัน

ข่าวล่าสุด

คนละครึ่งพลัส หนุน “พาสต้า บ่? - มีลาภ อุบลฯ" ยอดขายพุ่ง แชมป์ร้านต่างจังหวัดขายดี