posttoday

อิชิตันฯ คาดรายได้เพิ่มกว่า 15% ในปีหน้า ชาเขียวยังแข่งเข้มข้นและเติบโตสูง

11 พฤศจิกายน 2565

อิชิตันฯ เล็งรายได้เติบโตกว่า 15% ในปีหน้า มั่นใจชาเชียวยังฮ็อตยืนหนึ่งและแข่งขันเข้มข้น ตามมาด้วยกลุ่มน้ำอัดลมที่ครองใจวัยรุ่นสาย K-pop ก็มาแรง ส่วนตลาดส่งออกยังไปได้ดีโดยเฉพาะ CLMV ล่าสุดเริ่มเปิดประตูสู่ตะวันออกกลางด้วย

ด้วยสถานการณ์ที่ตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic Beverages) ในเมืองไทยยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มชาพร้อมดื่ม ซึ่งจากข้อมูลของ Nielsen ระบุว่าในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 23.07% มีมูลค่าตลาดชาพร้อมดื่มอยู่ที่ 10,380 ล้านบาท แข็งแกร่งกว่ากลุ่มเครื่องดื่มโดยรวม 

 

เช่นเดียวกับที่ในปี 2566 จะมีปัจจัยต่าง ๆ มาสนับสนุนให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี และยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ปีหน้าจะจัดได้เต็มรูปแบบ ก็ยิ่งทำให้มีการบริโภคชาพร้อมดื่มอย่างชาเขียวที่เป็นผลิตภัณฑ์กลักของ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เพิ่มสูงขึ้น

 

ดังนั้นนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ จึงเชื่อมั่นว่าในปี 2565 อิชิตันฯ จะสามารถทำรายได้เติบโตกว่า 15% จากปีนี้ ทั้งด้วยยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน จากผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมตันซันซูที่มีการตอบรับดีมากหลังเปิดตัวได้ไม่นาน จากธุรกิจ ICHITAN OEM SERVICE และตลาดส่งออกที่เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีนี้ด้วย

 

"ตอนนี้ชาเขียวอิชิตันและเย็นเย็น เติบโตดีมาก โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด ส่วนน้ำอัดลมตันซันซูที่เป็นเทรนด์เกาหลีก็มาแรงด้วย เพราะเปิดตัวได้แค่เดือนเดียวก็ขึ้นเป็นอันดับสองในตลาดแล้ว" 

 

สำหรับมุมมองที่มีต่อการแข่งขันในตลาดชาเขียวของไทยในปีหน้านั้น อิชิตัน ฯ เชื่อว่ายังมีการแข่งขันที่เข้มข้นเช่นเดิม ซึ่งปี 2565 มีตัวเลขการเติบโตกว่า 20% และคาดว่าในหน้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% อย่างไรก็ตามแม้ผลิตภัณฑ์กลุ่มชาเขียวจะอยู่ในทิศทางเติบโตที่ดี แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำอัดลม อย่าง “ตันซันซู” ก็นับเป็นอีกดาวเด่นที่มาแรงเช่นกัน โดยเฉพาะการตอบรับที่ดีของกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบวัฒนธรรม K-pop

 

"ปัจจัยทางเศรษฐกิจทำให้ ธุรกิจเครื่องดื่ม Non-alcohol ดีขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์แต่จะมากหรือน้อยขึ้นกับผู้เล่นของแต่ละกลุ่ม แต่ก็เหมือนสินค้าแฟชั่น บางช่วงสินค้าบางประเภทก็นิยมมากขึ้น แต่บางช่วงก็อาจตกลงไป แต่น้ำอัดลมน่าจะเติบโตดีในปีหน้า เพราะวัยรุ่นชอบ แต่เชื่อว่าชาเขียวยังยืนหนึ่งได้ เช่นเดียวกับชูกำลังและกาแฟก็จะดีขึ้นด้วย" 


สำหรับตลาดส่งออกที่นอกจากทำได้ดีในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะที่ประเทศกัมพูชาแล้ว ล่าสุด อิชิตันฯ เริ่มขยายสู่ตลาดตะวันออกกลางแล้ว โดยปิดดีลกับตัวแทนจำหน่ายในซาอุดิอะราเบียและประเทศรอบ ๆ ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้า เช่น น้ำวิตามิน และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2566  

 

ทั้งนี้คาดว่า ICHI จะมีรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้น 15% ในปีหน้า สอดคล้องกับการเติบโตโดยรวมของบริษัท และมีทิศทางดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็ฯไปได้ที่ในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้ารายได้จากตลาดส่งออกจะอยู่ที่อัตรา 10% ของยอดขายรวมของบริษัท 

 

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ตลาดส่งออกถือว่าฟื้นตัวดีขึ้นและมีราคาต้นทุนลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แม้ในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันทางด้านเศรษฐกิจ แต่อิชิตันฯ มุ่งเน้นบริหารจัดการภายในให้เกิดประสิทธิภาพ ทำให้ในไตรมาส 3/2565 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.5% อัตรากำไรสุทธิ 11.5%

 

ขณะเดียวกันส่วนแบ่งกำไรธุรกิจร่วมค้าในอินโดนีเซียอยู่ที่ 65.5 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ และยังอยู่ในทิศทางเติบโตต่อเนื่อง มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ จากเป้าหมายรับรู้ส่วนแบ่งกำไรกลับมาที่อิชิตัน กรุ๊ป ขั้นต่ำที่ราว 75 ล้านบาทในปี 2565 โดยเริ่มมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศฟิลิปปินส์ผ่านร้านค้า Alfamart แล้วในเดือนสิงหาคม กว่า 1,300 สาขา และเตรียมรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ Calvit นมเปรี้ยวโยเกิร์ต ในปลายปี 

 

ด้านธุรกิจ ICHITAN OEM SERVICE มีแนวโน้มสดใสในปีหน้าเช่นกัน ทั้งนี้ยังมีลูกค้ากลุ่ม OEM ที่แสดงความสนใจและอยู่ระหว่างพูดคุยอยู่หลายราย ซึ่งเป็นการผลิตสินค้ากลุ่มน้ำมะพร้าว CBD (Cannabidiol) และ เครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีผลงานชัดเจนในปี 2566 และรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  

 

ขณะที่ในปีนี้อิชิตันฯ เริ่มมีการรับรู้รายได้ฝั่ง ICHITAN OEM SERVICE จากลูกค้าใหม่ 2 รายเข้ามาในไตรมาส 3-4 /2565 ได้แก่ เครื่องดื่ม Acer Predator Shot Vitamin Drink และ Thaitanium Power Energy Drink เครื่องดื่มเพิ่มพลังผสมวิตามินสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนการใช้อัตราการกำลังการผลิต (Utilization Rate) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 65% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 49 % เป็นสัญญาณแนวโน้มที่ดีในการช่วยต้นทุนต่อขวดลดลง 

 

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2565 ของ ICHI นั้น มียอดขายรายไตรมาสทำสถิติสูงสุดของปี และเป็นครั้งแรกที่ชนะไตรมาส 2 ซึ่งปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่ม โดยมีรายได้อยู่ที่ 1,664.2 ล้านบาท เติบโต 43.6% กำไรสุทธิอยู่ที่ 192.2 ล้านบาท เติบโต 49.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน