ผลสำรวจการเงิน Gen Z พบออมเก่งขึ้นเผื่อฉุกเฉิน แต่ "ใช้ตอนนี้แฮปปี้กว่า”
ผลสำรวจการเงิน Gen Z พบออมเก่งขึ้น แต่ออมเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน เพราะไม่มั่นใจค่าครองชีพ กว่าครึ่งมองว่า "ใช้เงินตอนนี้แฮปปี้กว่า”
KEY
POINTS
- ผลสำรวจพบว่า Gen Z กว่า 70% เริ่มเก็บออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เป้าหมายหลักเพื่อใช้ในตอนฉุกเฉิน (67.6%) เพราะกังวลเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น
- แม้ออมเก่งขึ้น แต่เกือบครึ่งหนึ่งของ Gen Z ยังคงมีแนวคิดว่า “ใช้จ่ายตอนนี้แฮปปี้กว่าออม” ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน
Gen Z ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยให้ความสำคัญกับการวางแผนและการออมเงินมากขึ้น งานวิจัย Gen Z Finance Survey 2568 โดยวิจัยกรุงศรี พบว่า 69% ของ Gen Z กังวลเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งสะท้อนจากประสบการณ์ในช่วงโควิด-19 ที่ทั้งครอบครัวและคนรอบข้างได้รับผลกระทบ จึงทำให้คนรุ่นนี้หันมาให้ความสำคัญกับความมั่นคง ความปลอดภัย และการวางแผนทางการเงินระยะยาว
นอกจากนี้ยังพบว่า Gen Z เห็นความสำคัญของการเก็บออม โดยเฉพาะออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน กว่า 70% ของ Gen Z เริ่มเก็บเงิน และลงทุนเป็นประจำ และเป้าหมายในการออมเงินอันดับหนึ่งคือ การออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน (67.6%) รองลงมาคือ การออมเพื่อท่องเที่ยว (52.1%) และการออมเพื่อซื้อของขวัญให้ตนเอง (50.0%)
แม้ว่า Gen Z จะเห็นความสำคัญของการเก็บออม แต่เกือบครึ่งหนึ่งก็มีแนวคิดที่ว่า “ใช้จ่ายตอนนี้แฮปปี้กว่าออม” ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคทำให้ออมไม่ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
ทั้งนี้ผลสำรวจยังพบว่า รูปแบบในการออม 80% ของ Gen Z เลือกออมในบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นรูปแบบการออมที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูง ส่วนใหญ่ฝากในรูปแบบออมทรัพย์ธรรมดา หรือออมทรัพย์ดิจิทัล
ฝากประจำเป็นเรื่องยุ่งยาก กดดัน
คนรุ่นใหม่เลือกออมเงินในบัญชีธนาคาร แต่มีเพียงส่วนน้อยที่มีบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี โดย 2 เหตุผลหลักที่บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีไม่เป็นที่นิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ คือ “ไม่รู้จัก” หรือ “หากรู้จัก ก็อาจเข้าใจผิดว่าต้องมีเงินก้อนใหญ่ฝากทุกเดือน” ทำให้เสียโอกาสออมที่ได้รับดอกเบี้ยเต็มๆ ไม่เสียภาษี
ดาริกา ภคภาสน์วิวัฒน์ หัวหน้าทีมสร้างสรรค์ Kept by krungsri กล่าวว่า จากพฤติกรรมและมุมมองทางการเงินของคนรุ่นใหม่พบว่า แม้ Gen Z จะมีความรู้ทางการเงิน ให้ความสำคัญกับการมีวินัยทางการเงิน และมีเป้าหมายทางการเงินอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคที่ทำให้ Gen Z ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการได้ โดยเฉพาะมุมมองต่อเงินฝากประจำที่คนรุ่นใหม่มองว่ามีความยุ่งยาก ต้องใช้เงินก้อนใหญ่และอาศัยการมีวินัยขั้นสูง ในฐานะแพลตฟอร์มทางการเงินที่มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จึงต้องการช่วยให้คนรุ่นใหม่มีวินัยทางการเงินได้ง่ายขึ้นและยั่งยืนตามความตั้งใจ
กรุงศรีฯ พัฒนาเงินฝากประจำปลอดภาษี
จากมุมมองที่ว่า วินัยทางการเงินเป็นสิ่งที่ดี แต่ทำได้ยาก กดดัน ไม่สนุก และไม่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ Kept by krungsri ต้องการเข้ามาเปลี่ยนความหมายของวินัยที่เคยเป็นเรื่องยาก ให้กลายเป็นสิ่งที่ “ทำง่ายและแฮปปี้ได้” ด้วยการพัฒนา Happy tax free เงินฝากประจำปลอดภาษี ผ่านแนวคิด “มีวินัยเท่ากับแฮปปี้” ทำให้การออมเงินฝากประจำทำได้ง่าย สนุก ต่อเนื่อง และไปถึงเป้าหมายได้จริงผ่าน 4 ขั้นตอนการสร้างวงจรนิสัย (The Habit Loop) ที่จะช่วยสร้างวินัยทางการออมได้อย่างแฮปปี้
- ขั้นที่ 1 ตัวกระตุ้น (Make it obvious) ก้าวแรกที่ทำให้คนอยากทดลองใช้ เริ่มจากการออกแบบกระปุกใหม่ให้โดดเด่นบนหน้าแรก ดึงดูดให้อยากลองออมตั้งแต่แรกเห็น
- ขั้นที่ 2 แรงขับให้อยาก (Make it attractive) สร้างเป้าหมายการเก็บเงินที่ชัดเจน ด้วยการแสดงผลให้เห็นอัตราดอกเบี้ยและผลลัพธ์ยอดเงินปลายทางจากแผนออมที่เลือก ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้อยากเริ่มออมจริง
- ขั้นที่ 3 การลงมือทำ (Make it easy) เปลี่ยนพฤติกรรมการออมให้ง่ายขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่เริ่มออม โดยเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อเดือน เปิดบัญชีออนไลน์ผ่านแอป Kept ได้ทันที มีระบบแจ้งเตือนและฝากเก็บอัตโนมัติ ติดตามแผนการออมได้สะดวก ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ช่วยสร้างวินัย ทำให้ออมต่อเนื่องได้จนกลายเป็นนิสัย
- ขั้นที่ 4 รางวัล (Make it satisfying) กฎสำคัญของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คือเมื่อได้รับรางวัลที่น่าพอใจ จะกระตุ้นให้เกิดการทำซ้ำ เช่นเดียวกับผู้ฝากเงินสามารถเห็นดอกเบี้ยงอกเงยได้ทุกวันในแอป พร้อมแชร์ความสำเร็จการออมบนโซเชียล สร้างทั้งความภูมิใจและแรงบันดาลใจ
ฝาก 500 บาทต่อเดือน
ดาริกา กล่าวต่อว่า Happy tax free เงินฝากประจำปลอดภาษี ฝาก 500 บาทต่อเดือน พร้อมดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป รับดอกเบี้ยเต็มๆ ไม่เสียภาษี เลือกวันฝากอัตโนมัติได้ตามใจ มีระบบแจ้งเตือนทุกเดือนเพื่อไม่พลาดการออม และสามารถเลือกฝากได้ทั้งแบบ 24 เดือน (ดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี*) หรือ 36 เดือน (ดอกเบี้ย 1.70% ต่อปี*) ที่ให้ประสบการณ์การออมใหม่ ออมง่าย มีตัวช่วยตลอดการออมนี้ให้ไปถึงเป้าหมาย มีวินัยแค่นี้ก็แฮปปี้ได้
Kept by krungsri เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยปลูกฝังวินัยการออมในชีวิตประจำวัน ผ่านการออกแบบกระปุกออมเงินหลากหลายประเภทแบ่งตามเป้าหมายการเก็บที่แตกต่างกัน เช่น กระปุก Grow, Together, Fun และต่อยอดเงินออมได้กับกระปุกลงทุน Kept Invest ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถสร้างฐานผู้ใช้งานที่เติบโตทุกปี
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 705,000 ราย และมีสัดส่วน Gen Y และ Gen Z สูงถึง 86% โดยที่ Gen Y ราว 50% อีก 36% เป็น Gen Z ซึ่งเรียกลูกค้าของเราว่า Gen Kept และมียอดเงินฝากรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท มียอดเงินฝากเติบโตขึ้นถึง 18% (จากปี 2567) สะท้อนบทบาทของ Kept by krungsri ในการเป็นแพลตฟอร์มการออมที่เข้าใจคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง มาตลอด 5 ปี และเป็นสิ่งยืนยันว่าเราไม่เคยหยุดพัฒนา
ทั้งนี้ เมื่อสำรวจ Gen kept ยังพบอีกว่า กระปุกยอดนิยมของ Gen Z คือ กระปุก Together มากที่สุด ซึ่งใช้สำหรับสร้างเป้าหมายการเก็บเงินร่วมกับผู้อื่น เช่น การใช้จ่ายในครอบครัว หรือการลงขันในกลุ่มเพื่อน อันดับสองคือ Grow เน้นต่อยอด ถอนได้ นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้า Kept บางรายมีพฤติกรรมชอบอวดดอกเบี้ยที่ตนเองได้รับ อวดตั้งแต่หลัก 10-70 บาท รู้สึกเป็นความภาคภูมิใจที่เก็บเงินและอย่างน้อยได้ค่ากาแฟกลับมา ส่วน Gen Y มีเงินเก็บระดับหนึ่งแล้วจึงมองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น เช่น บัญชีออมทรัพย์ดิจิทัลดอกเบี้ยสูง หรือการลงทุน พวกเขายังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดหย่อนภาษี เช่น กองทุนรวม หรือประกัน
Kept by krungsri เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยปลูกฝังวินัยการออมในชีวิตประจำวัน เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ต้องการสร้างนวัตกรรมการออมรูปแบบใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหาวิธีเก็บเงินที่หลากหลาย และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล


