แบงก์สบช่องภาษีมรดก ดึงลูกค้าทำประกัน

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก โดย สมหมาย ภาษี รมว.คลัง ระบุว่า หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา กฎหมายกำหนดให้เริ่มเก็บภาษีจากผู้รับมรดกหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ 6 เดือน โดยเว้นเก็บทรัพย์สินมรดกในส่วนที่ไม่เกิน 100 บาทแรก หากผู้รับมรดกเป็นทายาทผู้สืบสันดานเสียภาษี 5% หากไม่ใช่ผู้สืบสันดานจะเสียภาษี 10%

ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดกที่ออกมามีช่องโหว่มาก จะทำให้รัฐเก็บภาษีผู้รับมรดกได้เงินไม่มาก จากที่คาดว่าจะเก็บได้ปีละ 5,000-6,000 ล้านบาท การให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเข้าไปตรวจก็จะเกินกำลัง และเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตเพิ่มขึ้นอีก

“คงมีคนรวยซุกอยู่แล้ว รัฐบาลคงไม่ทำถึงขนาดส่งเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเข้าไปตรวจในบ้านว่ามีการซุกสมบัติไว้และไม่ยอมมาเสียภาษีผู้รับมรดก” สมหมาย กล่าว

สำหรับร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คลังยังเดินหน้าต่อและจะออกกฎหมายให้ได้ภายในรัฐบาลนี้ โดยคาดว่าจะเก็บภาษีได้ในรัฐบาลต่อไป เพราะกฎหมายให้เก็บภาษีจริงหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว 2 ปี แต่จะไม่มีปัญหาเก็บภาษีได้น้อยหรือยากเหมือนกับเก็บภาษีผู้รับมรดก เพราะมีความชัดเจนว่าจะเก็บจากการถือครองที่ดิน บ้านที่อยู่อาศัย และอาคารพาณิชย์ โดยภาษีที่เก็บได้จะเข้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง

สำหรับการพิจารณาอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีการลดอัตราจาก 10% เหลือ 7% จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ รวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้

ด้าน อดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ผลจากการที่รัฐบาลออกกฎหมายภาษีมรดก ส่งผลให้มีลูกค้าระดับบน (พรีเฟอร์) ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป สนใจวางแผนการบริหารเงินจากมรดกมากขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบประกันชีวิต

ทั้งนี้ ธนาคารได้ร่วมกับบริษัท ไทยประกันชีวิต ออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันมรดก 2 แบบ ที่คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี ทุนประกันเริ่มต้น 2 แสนบาท โดยแบบประกันมรดกเพิ่มทรัพย์ จะมีเงินคืนทุกปี ถึงอายุ 98 ปี ส่วนแบบประกันมรดกคุ้มค่า จะไม่มีเงินคืน และกรมธรรม์ทั้งสองแบบสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

อย่างไรก็ดี จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงของประเทศไทย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตลอดอายุสัญญา (ไออาร์อาร์) ของประกันชีวิตลดน้อยลง โดยไออาร์อาร์ของประกันมรดกเฉลี่ยอยู่ที่ 2% ซึ่งอาจต่ำกว่าตลาดที่เฉลี่ยกว่า 2% เล็กน้อย เนื่องจากเป็นรูปแบบเฉพาะเพื่อการวางแผนมรดก ผู้ที่จะซื้อประกันนี้ต้องมีเงินเหลือจริงๆ

“เป็นธรรมดาที่ผลตอบแทนของประกันจะลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยขาลง ซึ่ง 6-7 ปีก่อนที่ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงคล้ายปัจจุบัน ไออาร์อาร์เคยร่วงลงไปถึง 1% กว่าก็มี สอดคล้องกับผลตอบแทนการลงทุนประเภทต่างๆ ที่ลดลง ซึ่งทางบริษัทประกันจะปรับรูปแบบโปรดักต์ให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น จ่ายยาวขึ้น คุ้มครองสั้นลง” อดิศร กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากภาษีมรดกมีผลบังคับใช้ เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าหันมาทำประกันชีวิตเพื่อการบริหารมรดกมากขึ้น และในระยะยาวสัดส่วนประกันมรดกจะเพิ่มขึ้นเป็น 15-20% ของเบี้ยประกันทั้งหมดจากปัจจุบันมีฐานเป็นศูนย์

อดิศร ระบุว่า แบบประกันมรดกทั้งสองแบบออกมาเพื่อตอบสนองลูกค้าผู้ต้องการออมควบคู่กับการสร้างความคุ้ม และรองรับกลุ่มคนที่มีมรดกจำนวนมากที่ต้องการคุ้มครองมรดกให้คงอยู่ เป็นการลดภาระทางภาษีมรดกและให้คนรุ่นหลังได้รับมรดกอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ยังช่วยกลุ่มผู้มีเงินได้ที่ต้องการนำเบี้ยไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 1 แสนบาท ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จึงช่วยลูกค้าวางแผนการเงิน และการจัดการมรดกหลังจากเสียชีวิต โดยคำนึงถึงประเภททรัพย์สิน ลักษณะธุรกิจ ตลอดจนความสัมพันธ์ในครอบครัวของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายสูงสุดของลูกค้า

สำหรับการขายประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) ในปี 2558 ธนาคารตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 1,500 ล้านบาท มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย หลังไตรมาสแรกได้ 400 ล้านบาทแล้ว เป็นผลจากภาวะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ ทำให้มีการโยกเงินไปยังประกันและผลิตภัณฑ์การลงทุนมากขึ้น