posttoday

เลี้ยงปลาตุ้ม รายได้งาม อาชีพธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

03 กรกฎาคม 2554

อาชีพของชาว จ.นครนายก นอกจากทำนา ทำไร่ ปลูกมะปราง มะยงชิดแล้ว อาชีพเพาะเลี้ยงลูกปลาดุก หรือชาวบ้านเรียกว่าปลาตุ้ม

อาชีพของชาว จ.นครนายก นอกจากทำนา ทำไร่ ปลูกมะปราง มะยงชิดแล้ว อาชีพเพาะเลี้ยงลูกปลาดุก หรือชาวบ้านเรียกว่าปลาตุ้ม

โดย...สมชาย บุญเหลือ

ก็กำลังได้รับความนิยม มีการเลี้ยงกันอยู่ในหลายอำเภอ แต่ละปีสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจำนวนมาก เช่นเดียวกับ สำเนา เกาะกาเหนือ เจ้าของ “สำเนาพันธุ์ปลา” เกษตรกรบ้านเกาะกา อ.ปากพลี จ.นครนายก จากเดิมที่ประกอบอาชีพช่างยนต์ แต่หันมาเพาะเลี้ยงปลาตุ้มเป็นอาชีพหลัก

ก่อนจะมาเพาะปลาตุ้มเป็นอาชีพอย่างจริงจัง เขาเคยเลี้ยงปลาดุกขายเหมือนเกษตรกรทั่วไป แต่ในที่สุดก็หันมาเลี้ยงปลาตุ้มอย่างเดียว เพราะมองเห็นตลาดว่าอนาคตน่าจะสดใส และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะใช้เวลาเลี้ยงไม่นานก็ขายได้ ที่สำคัญ ตลาดปลาตุ้มยังสดใส การดูแลก็ไม่ยาก แค่ใช้ประสบการณ์ หากผสมพันธุ์ให้ปลาตุ้มออกมาจำนวนมาก และเลี้ยงให้ได้ตามน้ำหนักที่ตลาดต้องการ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในการเลี้ยงแต่ละครั้ง

เลี้ยงปลาตุ้ม รายได้งาม อาชีพธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

สำเนาเลี้ยงปลาตุ้มมา 14 ปีเต็ม จนมีความรู้ความชำนาญ สามารถเพาะพันธุ์ปลาตุ้มได้เอง ไม่ต้องไปซื้อลูกพันธุ์ที่ไหน เขาใช้เวลาเลี้ยงไม่นาน ไม่ต้องดูแลรักษามาก เลี้ยงตามกำหนดเวลาแค่เดือนกว่าๆ เมื่อได้น้ำหนักปลาตุ้มตามตลาดต้องการก็จับขายได้เลย ไม่เหมือนกับเลี้ยงปลาดุกต้องเลี้ยงจนโต นอกจากใช้เวลานานแล้ว การดูแลรักษาก็ต้องดูแลอย่างดี และต้องเสียค่าอาหารมาก เนื่องจากปลาโตเท่าไหร่ก็กินอาหารมากขึ้นเท่านั้น หากใครสายป่านไม่ยาว คงต้องจอดแบบไม่ต้องแจว

สำเนา ไม่ได้เรียนจบมาทางด้านการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ หรือจบด้านการเกษตรโดยตรง แต่จบช่างยนต์มา จบมาแทนที่จะประกอบอาชีพซ่อมเครื่องยนต์เหมือนคนอื่น แต่เขาเลือกอาชีพที่ชอบคือ การเป็นเกษตรกร เพราะชอบเลี้ยงปลามาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็ศึกษาการเลี้ยงปลาตุ้ม เพราะเห็นว่าทำเงินได้ดีพอสมควร ใช้เวลาไม่นาน เป็นงานที่อิสระ แม้ขั้นตอนจะยุ่งยาก แต่ไม่เกินความสามารถ ถือคติการทำงานทุกอย่างต้องทำด้วยใจรักนั่นเอง

เลี้ยงปลาตุ้ม รายได้งาม อาชีพธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

วิธีการเพาะลูกพันธุ์จะต้องไปหาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลาดุกมาเอง หาจากเลี้ยงไว้เอง และหาซื้อจากแหล่งธรรมชาติที่จับขาย ปลาดุกมีหลายชนิดทั้งพันธุ์บิ๊กอุย และพันธุ์รัสเซีย เลี้ยงตามสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ แต่ละชนิดจะมีลักษณะการผสมที่แตกต่างกันออกไป ใครอยากรู้เขาก็พร้อมจะแนะนำให้ สำเนาพันธุ์ปลาเลี้ยงปลาทุกสายพันธุ์ที่ลูกค้าต้องการ ถ้าเป็นพันธุ์รัสเซียก็พ่อรัสเซีย แม่รัสเซีย ถ้าบิ๊กอุยต้องเป็นแม่ท้องนา พ่อรัสเซีย

ตลาดหลักต้องการพันธุ์บิ๊กอุย เนื่องจากทนต่อโรคดีกว่าพันธุ์อื่น และรสชาติถูกปากคนไทยเหมือนปลาดุกอุยที่จับได้ตามท้องไร่ท้องนาทั่วไป หลังจากได้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาแล้วก็ต้องใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์ในการผสมพันธุ์ โดยเริ่มตั้งแต่ฉีดยาเร่งกระตุ้นไข่ และกระตุ้นน้ำเชื้อ หลังจากนั้นก็ต้องแบ่งหน้าที่กันทำงาน มีทั้งคนรีดไข่ คนผสมไข่ คนตัดถุงน้ำเชื้อ คนโรยไข่ ขั้นตอนการผสมเทียมต้องผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะมีเวลาจำกัด

เลี้ยงปลาตุ้ม รายได้งาม อาชีพธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

พ่อพันธุ์ปลาดุกจะต้องเสียสละ คือ ต้องตายเมื่อจะนำน้ำเชื้อออกมาผสมพันธุ์ จะต้องตัดถุงน้ำเชื้อแล้วนำมาผสมกับไข่แม่พันธุ์ โดยธรรมชาติปลาดุกบิ๊กอุยมีข้อจำกัด พ่อพันธุ์จะดุ จะปล่อยให้ผสมเองตามธรรมชาติไม่ได้ จะกินลูกตัวเอง อุปสรรคในการผสมพันธุ์ คือ ไข่ต้องมีความสมบูรณ์ น้ำเชื้อต้องแข็งแรง อายุที่ผสมได้คือ 12 ปี พ่อพันธุ์จึงต้องเลี้ยงเองเพื่อความมั่นใจนั่นเอง หลังจากผสมน้ำเชื้อแล้วจะเป็นตัวภายใน 24 ชั่วโมง แต่ต้องฟักในบ่อปูนประมาณ 4 วัน รอให้ถุงน้ำเชื้อในตัวยุบ ก่อนจะย้ายไปเลี้ยงต่อในบ่อดินเป็นบ่ออนุบาล

การเตรียมบ่อดินก็ต้องละเอียด ต้องกำจัดศัตรูตามธรรมชาติทั้งนกและหนู ต้องล้อมมุ้งเขียวไม่ให้กบมาวางไข่ เพราะลูกอ๊อดของกบจะกัดปลา ตรงนี้เป็นความเสียหาย จึงต้องละเอียด บ่อเพาะฟักก็ต้องดูคุณภาพน้ำ ความเป็นกรดเป็นด่าง หลังจากนำลูกไปเลี้ยงจะให้อาหารตามธรรมชาติ คือ ไรแดง เป็นอาหารของลูกปลาวัยอ่อน หลังจากนั้นจะให้อาหาร ซึ่งสำเนาฟาร์มปัจจุบันให้อาหารปลาตกประมาณเดือนละ 1 ล้านกว่าบาท

การจับปลาตุ้มขายจะขึ้นอยู่กับตลาด ส่วนมากใช้เวลาเลี้ยง 35 วันนับตั้งแต่วันอนุบาลที่บ่อดินก็จับขายได้แล้ว เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก สำหรับตลาดของปลาตุ้มมีอยู่ทั่วประเทศแล้วแต่สาย ลูกค้าจะสั่งมาเรื่อยๆ ปัจจุบันเลี้ยงเท่าไหร่ก็มีลูกค้ารับหมด ผลิตไม่เพียงพอ แต่ละเดือนเลี้ยงอยู่กว่า 10 ล้านตัว ค่าอาหารตกเดือนละกว่า 1 ล้านบาท สำหรับรายได้ ราคาขายจะมีตั้งแต่ 35 สตางค์ 45 สตางค์ และ 55 สตางค์ และขึ้นอยู่กับระยะทางในการขนส่งด้วย ระยะทางใกล้ก็ถูก ไกลก็แพง

เลี้ยงปลาตุ้ม รายได้งาม อาชีพธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

ถ้าคิดที่จำนวนกว่า 10 ล้านตัว ราคาไม่รวมค่าใช้จ่ายจะมีรายได้ 3 ล้านกว่าบาทต่อเดือน ถ้าหักค่าใช้จ่ายก็จะผันแปรไปตามเปอร์เซ็นต์การเพาะฟักที่ติดด้วย ถ้าอัตรารอดของลูกปลาตุ้มสูง รายได้ก็เพิ่มขึ้นมา ที่ทำอยู่อัตรารอดอยู่ที่ 50% ก็ถือว่าดี เกษตรกรอยู่ได้ ถ้าอัตรารอดอยู่ที่ 30% ก็ถือว่าน้อย รายได้จะลดลงมา

สำหรับลูกค้านอกจากในประเทศแล้ว ต่างประเทศก็มาซื้อที่ฟาร์มแห่งนี้ เช่น ลาว กัมพูชา อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องหาลูกค้าใหม่ เพราะปัจจุบันก็ผลิตไม่พออยู่แล้ว แต่ก็มีลูกค้าใหม่ๆ มาตลอด เนื่องจากการผลิตของเกษตรกรในปัจจุบันมีไม่พอ

อุปสรรคในการเพาะพันธุ์ปลาตุ้มก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน ถ้าเป็นบิ๊กอุยต้องเลี้ยงในฤดูที่แม่มีไข่เท่านั้น คือ ต้นเดือน มี.ค. ถึงปลายเดือน ต.ค.เท่านั้น ต้องพยายามเรียนรู้ธรรมชาติของปลาดุกด้วย เมื่อเจอปัญหาจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

สำเนา ฝากบอกว่า การประกอบอาชีพทุกอาชีพต้องทำด้วยใจรัก ถ้าใจรัก อะไรผิดพลาดก็แก้ไขได้ ต้องสนใจดูแล รู้จักหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ อย่างเพาะปลาตุ้มจะต้องเรียนรู้ธรรมชาติของปลาตุ้มและปลาดุกด้วย อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทำรายได้สูงพอสมควร แต่ความเสี่ยงก็มีมาก หลักสำคัญ สำเนา ย้ำว่าต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ปลายทางต้องได้ของครบ และได้ของดีมีคุณภาพ ทำอาชีพนี้มา 10 กว่าปี ยึดถือสิ่งเหล่านี้มาตลอด  

 

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"