หุ้นสหรัฐฯปิดลบ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11,855.42 จุด ลดลง 137.74 จุด ด้านแนสแดค ปิดที่ 2,667.33 จุด ลดลง 33.64 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกตกฮวบฮาบ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ ทรุดลงแรงในช่วงต้นจากความกังวลต่อการหลอมละลายในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ทว่าก็ดีดตัวกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยจากความเห็นของเฟดที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของอเมริกา
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11,855.42 จุด ลดลง 137.74 จุด ด้านแนสแดค ปิดที่ 2,667.33 จุด ลดลง 33.64 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกตกฮวบฮาบ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ ทรุดลงแรงในช่วงต้นจากความกังวลต่อการหลอมละลายในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ทว่าก็ดีดตัวกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยจากความเห็นของเฟดที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของอเมริกา
หลังจากดิ่งลงกว่า 300 จุดในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของการซื้อขาย ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ กลับมาปิดที่ 11,855.42 จุด ลดลง 137.74 จุด(1.15 เปอร์เซนต์) แนสแดค ลดลง 33.64 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,667.33 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.52 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,281.87 จุด
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกฮวบฮาบเมื่อวันอังคาร โดยที่ “เบรนต์” หล่นลงถึงเกือบ 6 ดอลลาร์ ท่ามกลางความหวั่นเกรงที่ว่า แผ่นดินไหวและวิกฤตนิวเคลียร์ที่ติดตามมาในญี่ปุ่น จะกระทบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้อย่างรุนแรง โดยที่ความวิตกดังกล่าวยังคงมีอิทธิพลเหนือกว่าปัจจัยเรื่องความปั่นป่วนผันผวนในตะวันออกกลาง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ “เบรนต์” ของลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนเมษายน หล่นลงมา 5.79 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 107.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายที่ตลาดลอนดอนช่วงใกล้เที่ยงวัน ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นไปอยู่แถวๆ 109.38 ดอลลาร์ ในเวลา 12.12 จีเอ็มที (ตรงกับ 19.12 น.เวลาเมืองไทย) กระนั้นก็ยังคงต่ำลงจากราคาปิดวันก่อนอยู่ 4.29 ดอลลาร์ ส่วนน้ำมันดิบไลต์สวีตครูด ของตลาดนิวยอร์ก ที่ซื้อขายในลอนดอน ณ เวลาเดียวกัน ก็ไหลลงมาจากราคาปิดวันก่อน 3.35 ดอลลาร์ อยู่ที่ 97.84 ดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้หล่นลงไปลึกราวๆ 4 ดอลลาร์ทีเดียว
ญี่ปุ่นนั้นมีฐานะเป็นผู้บริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วย แต่จากมหาภัยพิบัติที่ประสบอยู่ ทำให้คาดหมายกันว่าความต้องการใช้น้ำมันของแดนอาทิตย์อุทัยน่าจะลดลงมาก


