สรรพสามิต ขันน็อตสกัดส่งน้ำมันไปกัมพูชา ลั่นฟันโทษสูงสุด จนท.เอื้อประโยชน์
สรรพสามิต ยกระดับมาตรการคุมเข้มส่งออกน้ำมัน ใช้เทคโนโลยี E-Seal-สาร Marker ตรวจสอบทุกเส้นทาง ยันยังไม่พบเลี่ยงส่งออกไปกัมพูชา-น้ำมันเถื่อน ลั่นแรง หากพบเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ ฟันโทษสูงสุด
KEY
POINTS
- กรมสรรพสามิตเพิ่มมาตรการคุมเข้มการส่งออกน้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยี E-Seal และสารมาร์กเกอร์ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงเพื่อสกัดกั้นการลักลอบส่งไปกัมพูชา
- ยืนยันว่าหลังรัฐบาลสั่งระงับการส่งออกไปกัมพูชา ยังไม่พบการกระทำผิดจากคลังที่กำกับดูแล และปริมาณการส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวยังอยู่ในระดับปกติ
- ประกาศจะลงโทษขั้นสูงสุดทั้งทางวินัยและอาญา หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเอื้อประโยชน์ในการลักลอบส่งออกน้ำมันในช่วงสถานการณ์ด้านความมั่นคง
ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และกระแสความวิตกกังวลของสังคมต่อกรณีการลักลอบส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง หรือการใช้ประเทศที่สามเป็นทางผ่านเพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ขัดแย้ง "โพสต์ทูเดย์" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ภาณุพงศ์ ศรีเกตุ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อไขข้อสงสัยและสร้างความเชื่อมั่นต่อมาตรการกำกับดูแลการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศไทย
ภาณุพงศ์ ยืนยันว่า ตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายสั่งระงับการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา 100% ข้อมูลของกรมสรรพสามิตยังไม่พบการส่งน้ำมันจากโรงกลั่นและคลังน้ำมันที่อยู่ในกำกับดูแลของกรมสรรพสามิตไปยังประเทศกัมพูชา
สำหรับรถน้ำมันที่พบที่ด่านช่องเม็กที่ปรากฏตามข่าว กรมสรรพสามิตตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นน้ำมันที่ออกจากโรงกลั่นน้ำมันที่กรมสรรพสามิตกำกับดูแลตามกฎหมาย โดยปลายทางระบุเป็น สปป.ลาว ผ่านด่านช่องเม็ก เท่านั้น
ส่วน ปริมาณการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่น สปป.ลาว ที่ได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการตรวจสอบสถิติย้อนหลัง 3 ปี ตัวเลขการส่งออกไปยังประเทศลาวยังคงอยู่ในระดับปกติ ยังไม่พบตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ
• สถิติปริมาณส่งออกน้ำมันไปสปป.ลาวเฉลี่ย
- ปีงบประมาณ 2567 ประมาณ 250 ล้านลิตร
- ปีงบประมาณ 2568:ประมาณ 258 ล้านลิตร
- ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2569 (ตุลาคม-ธันวาคม ปีปฏิทิน 2568) อยู่ที่ 62 ล้านลิตร
รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงด้วยว่า แม้ตัวเลขสถิติจะไม่เพิ่มขึ้นผิดปกติ แต่ทางกรมฯ ก็ให้ความสำคัญข้อสังเกตของสังคมที่ว่า อาจมีการเลี่ยงส่งออกไปประเทศที่สาม เช่น กัมพูชา ขณะนี้กรมสรรพสามิตได้ประสานความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคงและศุลกากร เพื่อพิสูจน์ทราบเรื่องนี้
“รัฐบาล กระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิต ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างสูง ต้องอาศัยการข่าวร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ศุลกากร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติหรือพฤติกรรมเลี่ยงส่งออกไปประเทศที่สาม หรือ กัมพูชา โดยเฉพาะเส้นทางบกที่ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี” ภาณุพงศ์กล่าว
เพิ่มมาตรการกำกับคุมเข้ม ตรวจสอบทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยี
กรมสรรพสามิตได้วางมาตรการกำกับดูแลการขนส่งน้ำมันที่ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรอย่างเข้มงวดตลอดเส้นทาง โดยแบ่งการกำกับดูแลออกเป็น 3 ส่วนหลัก
1. ต้นทาง มีเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการตรวจปล่อยน้ำมันตั้งแต่การออกจากโรงกลั่นหรือคลังน้ำมัน
2.เส้นทางการขนส่ง มีมาตรการกำกับดูแล
- เอกสารกำกับ ต้องมีเอกสารระบุรายละเอียดครบถ้วน ทั้งต้นทางของคลังน้ำมัน ปริมาณ ชนิดน้ำมัน คนขับ ทะเบียนรถยนต์ และปลายทางที่จะนำส่ง
- เทคโนโลยีและระบบ E-Seal (Electronic Seal) โดยมีการใช้ E-Seal ซึ่งทำหน้าที่คล้าย GPS ในการกำกับดูแลการขนส่งตั้งแต่โหลดน้ำมันที่คลัง โดย E-Seal จะระบุตำแหน่งและเส้นทางการเดินทางของรถ หากรถหยุด ออกนอกเส้นทาง หรือมีการเปิดซีลระหว่างทาง ระบบจะแจ้งเตือนไปยังศูนย์ควบคุมของกรมสรรพสามิตทันที
- สารมาร์กเกอร์ (Marker) คือ มีการเติมสารเคมีที่ผสมในน้ำมัน เพื่อแยกการใช้งานและการเสียภาษี ระบุว่า น้ำมันสำหรับส่งออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น หากตรวจพบในประเทศถือว่าผิดกฎหมาย
3. ปลายทาง มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรและสรรพสามิตร่วมกันตรวจปล่อย
การเฝ้าระวังน้ำมันเถื่อนทางทะเลและน้ำมันเขียว
ในประเด็นการกำกับดูแลการใช้ "น้ำมันเขียว" น้ำมันสำหรับชาวประมงที่ได้รับยกเว้นภาษี ผิดวัตถุประสงค์
• การควบคุมน้ำมันเขียวดำเนินการผ่านระบบทะเบียนเรือ โดยเรือสถานีบริการ (Tanker) น้ำมัน และเรือที่จะเติมต้องจดทะเบียนกับกรมเจ้าท่าและกรมสรรพสามิต นอกจากนี้ ยังใช้ระบบ AIS (Automatic Identification System) เพื่อติดตามสถานะ ตำแหน่ง และพิกัดของเรือที่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ เกี่ยวกับน้ำมันเขียว
“สำหรับข้อกังวลเรื่องน้ำมันเถื่อน กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างติดตามการลักลอบทางทะเลอย่างเข้มงวด และจากข้อมูลด้านการข่าว ยังไม่พบเรือ นิติบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ลักลอบนำน้ำมันผิดกฎหมายไปจำหน่ายให้กัมพูชา” ภาณุพงศ์ กล่าว
การตรวจสอบการขอคืนภาษีจากการส่งออกน้ำมัน
กรมสรรพสามิตตรวจสอบการคืนภาษีส่งออกน้ำมันจากเอกสาร การขนส่ง และหลักฐานออกนอกราชอาณาจักรอย่างครบถ้วน ควบคู่ใช้ E-Seal และสารมาร์กเกอร์ ป้องกันการส่งออกเทียม โดยคืนภาษีเฉพาะกรณีส่งออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น ส่วนการส่งออกผ่านแดนเป็นอำนาจประเทศปลายทาง
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยความมั่นคง เช่น สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบน้ำมันเถื่อนตามแนวชายฝั่งและชายแดน โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นประจำเดือนละครั้ง และเพิ่มความถี่มากขึ้นเมื่อมีเหตุพิเศษเกิดขึ้น
บทลงโทษสูงสุดเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์
รองอธิบดีกรมสรรพสามิตเน้นย้ำว่า การกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและเป็นนโยบายที่เคร่งครัดของกรมฯ อยู่แล้ว นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน กรมฯ และกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายและกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหน่วยหน้า เพิ่มความเข้มงวดมากกว่าเดิมจนถึงขั้นขีดสุด เต็มกำลังความสามารถ


