posttoday

เอกนิติ โชว์ผลงาน 1 เดือน อัดมาตรการ ดัน GDP ไตรมาส4 โต 1.1%

10 พฤศจิกายน 2568

เอกนิติ เผย 1 เดือนเร่งมาตรการกระตุ้นศก.แสนล้าน ดันจีดีพีไตรมาส 4 โต 1.1% จากเดิม 0.3% ลั่นเดินหน้า Fast Pass ปลดล็อกเงินลงทุนค้างท่อ 4.7 แสนล้านบาท เข้าระบบเศรษฐกิจ

KEY

POINTS

  • รัฐบาลอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาท ดันตัวเลขคาดการณ์ GDP ไตรมาส 4 ให้เติบโตขึ้นเป็น 1.1% จากเดิมที่คาดว่าจะโตเพียง 0.3%
  • เตรียมผลักดันโครงการ “Fast Pass” เพื่อเร่งปลดล็อกเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ค้างท่ออยู่กว่า 4.7 แสนล้านบาท ซึ่งติดขัดปัญหาด้านกฎระเบียบที่ซับซ้อน
  • โครงการ “Fast Pass” จะใช้กลไกคณะทำงานพิเศษเพื่อรื้อถอนกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน หรือที่เรียกว่า “กีโยตินกฎหมาย” เพื่อให้การลงทุนเดินหน้าได้รวดเร็วขึ้น

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน iBusiness Forum : Thailand Future Signal 2026 ภายใต้หัวข้อ “จับสัญญาณอนาคต ก้าวใหม่เศรษฐกิจไทย” ว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง เพื่อฟื้นชีพจรเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง

โดยมาตรการที่ดำเนินไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ได้แก่ การเร่งคืนหนี้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) การเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการ “เที่ยวดีมีคืน” การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐ และโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ซึ่งช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายทั่วประเทศโดยไม่ต้องกู้เงินใหม่ รัฐบาลยังคงรักษาวินัยการคลังอย่างเข้มงวด
 

นายเอกนิติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะเปราะบาง เหมือน “ชีพจรที่เต้นเบา” ใกล้ดิ่งเหว โดยในช่วงแรกคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4/2568 จะเติบโตเพียง 0.3% แต่หลังจากรัฐบาลเร่งอัดมาตรการชุดดังกล่าว ทำให้ตัวเลขปรับขึ้นเป็น 1.1% ซึ่งถือเป็นสัญญาณฟื้นตัวเชิงบวกระยะแรกของเศรษฐกิจไทย

ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังเห็น “สัญญาณเศรษฐกิจที่สอง” คือ การย้ายฐานการผลิต (Relocation) ของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก ทำให้ไทยและอาเซียนกลายเป็นจุดหมายใหม่ของการลงทุน โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พบว่า การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติในปีที่ผ่านมาเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 90% และมีโครงการเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมเกษตรสมัยใหม่ ดาต้าเซ็นเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเวลเนสเซ็นเตอร์

อย่างไรก็ตาม ยังมีเม็ดเงินลงทุนค้างท่อกว่า 4.7 แสนล้านบาทที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่ เนื่องจากติดขัดด้านกฎระเบียบและกฎหมายที่ซับซ้อน รัฐบาลจึงเตรียมเดินหน้าโครงการ “Fast Pass” เพื่อเร่งปลดล็อกเม็ดเงินดังกล่าวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว พร้อมตั้งคณะทำงานพิเศษที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทำหน้าที่รื้อกฎหมายและระเบียบที่เป็นอุปสรรค หรือที่เรียกว่า “กีโยตินกฎหมาย” เพื่อเร่งให้การลงทุนเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ

นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สัญญาณการฟื้นตัวเริ่มปรากฏชัด แต่รัฐบาลจะต้องบริหารเศรษฐกิจให้เกิดผลต่อเนื่องในระยะยาว ภายใต้ข้อจำกัดของเวลาและฐานะการคลัง โดยจะออกแบบนโยบายให้ “ได้ผลเร็ว แต่ยั่งยืน” และกระจายประโยชน์สู่ทุกภาคส่วน บนพื้นฐานของวินัยการเงินการคลังที่เข้มแข็ง

“เศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่จับต้องได้ แต่เป้าหมายของรัฐบาลไม่ใช่เพียงการกระตุ้นระยะสั้น หากต้องการสร้างรากฐานใหม่ให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสร้างโอกาสใหม่ให้กับภาคเอกชนและประชาชนทุกกลุ่ม” นายเอกนิติ กล่าว

ข่าวล่าสุด

“จุลพันธ์” ผนึกประชาชาติ ลุยหาดใหญ่ จวกรัฐบาลบริหารน้ำท่วมพลาด