ธุรกิจโรงแรมปี 68 รายได้หดตัวรอบ 5 ปี เผชิญความท้าทายรอบด้าน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดปี 2568 รายได้ธุรกิจโรงแรมและที่พักหดตัว 4.5% จากปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งนักท่องเที่ยวลดลง ราคาห้องพักถูกลง และต้นทุนที่สูงขึ้น
KEY
POINTS
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่ารายได้ธุรกิจโรงแรมปี 2568 จะหดตัว 4.5% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 5 ปี
- ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักที่ต่ำลง รวมถึงรายได้จากบริการอื่น ๆ ที่ลดน้อยลง
- ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าแรง สวนทางกับรายได้ที่ลดลง
- กลุ่มโรงแรมที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดหลักและโรงแรมในพื้นที่ชายแดนเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ธุรกิจโรงแรมปี 2568: ภาพรวมที่น่ากังวลและแนวทางปรับตัว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าในปี 2568 รายได้ของธุรกิจโรงแรมและที่พักจะหดตัวลง 4.5% จากปี 2567 ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 5 ปี การลดลงนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง: คาดว่าในปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยจะลดลง 9% จากปีที่ผ่านมา เหลือประมาณ 32.2 ล้านคน นอกจากนี้ วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ลดลงด้วย
อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักที่ลดลง: ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 อัตราการเข้าพักทั่วประเทศอยู่ที่ 71.66% ซึ่งลดลง 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าตลอดทั้งปีอัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ประมาณ 69.83% หรือลดลง 2.3% ส่วนราคาห้องพักเฉลี่ยก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน โดย 7 เดือนแรกของปี ดัชนีราคาห้องพักเฉลี่ยลดลง 5% และคาดว่าตลอดทั้งปีจะลดลง 4%
รายได้จากบริการอื่น ๆ ที่หดตัว: รายได้จากการจัดงานประชุมและสัมมนาลดลง เนื่องจากมีการจัดงานระดับนานาชาติและคอนเสิร์ตน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 การจัดงานประชุมและสัมมนาทั้งในและต่างประเทศลดลงถึง 13%
ความท้าทายจากต้นทุน: ธุรกิจโรงแรมเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าแรงที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไม่สามารถผลักภาระต้นทุนนี้ไปที่ลูกค้าได้เต็มที่ เนื่องจากสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวและการแข่งขันที่รุนแรง
กลุ่มธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวัง
สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการแตกต่างกันไป โดยกลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
- โรงแรมที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูง: โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก ที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ ชลบุรี สงขลา และเชียงใหม่ ซึ่งมีการแข่งขันสูงเนื่องจากจำนวนห้องพักในพื้นที่มีมาก
- โรงแรมในพื้นที่ชายแดน: เช่น จังหวัดสระแก้วและอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ในทางตรงกันข้าม บางจังหวัดที่คาดว่าจะยังคงเติบโตได้ส่วนใหญ่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทย เช่น กาญจนบุรี พังงา นครศรีธรรมราช นครราชสีมา และนครพนม
แนวโน้มและความเสี่ยงในอนาคต
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ธุรกิจโรงแรมยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง โดยมีความเสี่ยงที่จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติอาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกและในประเทศที่ชะลอตัว รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังมีหนี้สินต่อรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ทำให้สถานการณ์ยิ่งน่ากังวล
จากความท้าทายทั้งหมดนี้ การปรับตัวสู่การเป็น
"โรงแรมยั่งยืน" จึงมีความจำเป็นมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย


